ชายหาดสมิหลา สงขลา ตั้งป้ายประชาสัมพันธ์และเสาน้ำส้มสายชูช่วยลดพิษแมงกะพรุน

ชายหาดสมิหลา ตั้งป้ายประชาสัมพันธ์และเสาน้ำส้มสายชูช่วยลดพิษแมงกะพรุน

วันที่ 29 มิถุนายน 63 กรม ทช. โดยสำนักงาน ทช.ที่๕ (สงขลา) พาคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ชายหาดชลาทัศน์ และชายหาดสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา สืบเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวบาดเจ็บจากการสัมผัสแมงกะพรุนพิษ บริเวณชายหาดชลาทัศน์ โดยคาดว่าน่าจะเป็นแมงกะพรุนไฟ ซึ่งมีการสำรวจและพบแพร่กระจายตลอดชายฝั่งในบริเวณอ่าวไทยตอนล่างในช่วงฤดูฝนนี้

ทั้งนี้ในปัจจุบันมีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังในการลงเล่นน้ำทะเลในบริเวณหาดชลาทัศน์ และหาดสมิหลา ทั้งนี้ได้ประสานสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.สงขลา ให้ช่วยแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวด้วย จากนั้นได้สำรวจเสาน้ำส้มสายชูที่ติดตั้งไว้บริเวณชายหาด และเปลี่ยนขวดน้ำส้มสายชูให้พร้อมใช้งานต่อไป จากการสอบถามนักท่องเที่ยว มีข้อเสนอให้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์และเสาน้ำส้มสายชูเพิ่มเติมทุกระยะ ๒๐๐ เมตรของชายหาด เพื่อจะได้ครอบคลุมตลอดแนวชายหาดและเกิดประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด

ซึ่งสาเหตุที่พบแมงกะพรุนกลุ่ม Scyphozoa ในพื้นที่น่านน้ำจังหวัดสงขลา น่าจะมาจากกระแสน้ำและคลื่นลม เนื่องจากแมงกะพรุนเป็นแพลงก์ตอนสัตว์ขนาดใหญ่ล่องลอยในน้ำ สำหรับแมงกะพรุนกล่องยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้แน่ชัด อยู่ในระหว่างการศึกษาปัจจัยแวดล้อมที่มีผลต่อการแพร่กระจาย

ทะเล

ชายฝั่งทะเลของจังหวัดสงขลาจัดเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง เป็นพื้นที่ที่พบแมงกะพรุนกล่อง แต่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยสงสัยเสียชีวิตหรือบาดเจ็บรุนแรง (ผู้ป่วยหมดสติ) จากแมงกะพรุนกล่องิื

แมงกระพรุน

สำหรับข้อมูลความหลากหลายชนิดของแมงกะพรุน พบแมงกะพรุนจำนวนทั้งสิ้น 15 ชนิด เป็นแมงกะพรุนในกลุ่ม Cubozoa หรือแมงกะพรุนกล่องจำนวน 4 ชนิด

ได้แก่ Morbakka sp. A, Morbakka sp. B, Carukiidae (unidentifiable) และ Chiropsoides buitendijki แมงกะพรุนกลุ่ม Scyphozoa จำนวน 9 ชนิด

ได้แก่ Acromitus flagellatus (แมงกะพรุนหางขน) Catostylus townsendi (แมงกะพรุนขี้ไก่หรือแมงกะพรุนถ้วย) Cyanea buitendijli (แมงกะพรุนรกช้าง) Lobonemoides sp. (แมงกะพรุนลอดช่อง) Lychnorhiza malayensis (แมงกะพรุนนก) Phyllorhiza punctata (แมงกะพรุนลายจุดหรือแมงกะพรุนด่างออสเตรเลีย) แมงกะพรุนไฟ Chrysaora sp., Rhopilema hispidum (แมงกะพรุนหนังหรือแมงกะพรุนส้มโอ) และ Versuriga anadyomene (แมงกะพรุนหอม) และแมงกะพรุนกลุ่ม Hydrozoa จำนวน 2 ชนิด

ได้แก่ Physalia cf. utriculus (แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกสหรือแมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกสหรือแมงกะพรุนหัวขวด) และ Porpita porpita (แมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์หรือแมงกะพรุนกระดุมสีฟ้า) โดยมีแนวโน้มพบแมงกะพรุน C. buitendijki และแมงกะพรุนในสกุล Morbakka ในช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม) และพบแมงกะพรุนไฟ Chrysaora ตลอดช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือถึงช่วงต้นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (เดือนพฤศจิกายนถึงมิถุนายน) และพบแมงกะพรุน P. cf. utriculus ในช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (เดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม)

แมงกะพรุน

แมงกระพรุน

 

HATYAITODAYNEWS

อ้างอิง : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

Next Post

จังหวัดปัตตานี เปิดตลาดกลางปศุสัตว์ หลังวิกฤต COVID-19 กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้

Wed Jul 1 , 2020
จังหวัดปัตตานี เปิดตลาดกลางปศุสัตว์ หลังวิกฤต COVID-19 กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้          นายบัญชา สัจจาพันธ์ ปศุสัตว์จังหวัดปัตตานี มอบหมายให้กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศการปศุสัตว์ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ ร่วมกับปศุสัตว์อำเภอ 12 อำเภอในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ร่วมกิจกรรมตลาดนัดโคกรุบาน หลังวิกฤต COVID-19 รัฐบาลผ่อนคลาย ระยะ 4 หลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤติโควิด 19 จังหวัดปัตตานีมีการเลี้ยงปศุสัตว์อยู่พอสมควร แต่ความเป็นจริงแล้วยังมีการเลี้ยงไม่มากพอกับจำนวนความต้องการบริโภคของพี่ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลทำโคกรุบ่านตามพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม เราจึงเห็นว่าโคและแพะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีความต้องการสูง เพราะฉนั้นจึงเกิดเป็นความคิดว่า ทำอย่างไรให้อาหารที่ได้มาจากการเลี้ยงปศุสัตว์มีมากเพียงพอ จึงเป็นที่มาของการส่งเสริมให้มีการเลี้ยงปศุสัตว์มากขึ้นในพื้นที่ของเรา แต่สิ่งหนึ่งในการส่งเสริมการผลิตก็คือเราต้องมีหลักประกันว่าผลผลิตนั้นสามารถขายได้ หาตลาดรองรับให้เกษตรกรเหล่านั้นได้ และนี่คือโครงสร้างพื้นฐานที่เราได้ร่วมกันประชุมหารือและ ดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนตลาดปศุสัตว์ในพื้นที่ให้เป็นรูปธรรม โดยจังหวัดปัตตานี เริ่มขยับขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านปศุสัตว์ บริเวณตลาดกลางปศุสัตว์ชายแดนใต้ มีการซื้อขาย โคกรุบาน เพื่อพิธีกรรมของพี่น้องมุสลิมชายแดนใต้ เริ่มศักราช มีการซื้อขายทุกวันอังคารของเดือน เชิญชวนผู้ประกอบการ ผู้สนใจ พี่น้อง มาช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนใต้ จำนวนโคเข้าตลาด 25 ตัว มูลค่า 657,000 บาท ขายได้ 5 ตัว มูลค่า 129,500 บาท ภายใต้เมืองปศุสัตว์ปัตตานี 4.0 มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน   HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : กรมข่าวประชาสัมพันธ์ Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
จังหวัดปัตตานี เปิดตลาดกลางปศุสัตว์ หลังวิกฤต COVID-19 กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้