เริ่มแล้ว เทศกาลตรุษจีนศาลเจ้าหลักเมืองสงขลา สืบสานประเพณีและวัฒนธรรมชาวจีน
วันนี้ 5/2/64 ที่ศาลเจ้าหลักเมืองสงขลา ถนนนางงาม เทศบาลนครสงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลตรุษจีนของศาลเจ้าหลักเมืองสงขลา โดยมี นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา ส่วนราชการ สมาคมฮกเกี้ยนสงขลาและหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนเชื้อสายจีนในจังหวัดสงขลาต่างสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงสัญลักษณ์แห่งความเป็นมงคล เข้าร่วมอย่างคับคั่ง
สมาคมฮกเกี้ยนสงขลา จัดให้มีงานเทศกาลตรุษจีนของศาลเจ้าหลักเมืองสงขลา เพื่อสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมของชาวจีนที่สืบทอดกันมาช้านาน ซึ่งภายในงานมีประชาชนเชื้อสายจีนในจังหวัดสงขลา ต่างพาครอบครัวเดินทางนำเครื่องเซ่นไหว้ เช่น หมู เป็ด ไก่ ผลไม้ ดอกไม้ธูปเทียน มาร่วมเซ่นไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ที่ชาวสงขลาเคารพนับถือ สืบทอดต่อเนื่องกันมาเป็นเวลานาน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าไปกราบไหว้สักการะและท่องเที่ยว ศาลเจ้าหลักเมืองสงขลา ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 จนถึง 17:00 และปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19อย่างเคร่งครัด
HATYAITODAYNEWS
อ้างอิง : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
Fri Feb 5 , 2021
คืบหน้าแล้ว สภ.เทพาตั้งข้อหาเอาผิด ผอ.โรงเรียนเทพา 3 ข้อหาเร่งสอบสวนเพิ่มเติม จากเมื่อวานนี้ 4/2/63 นายสายัณร์ ชาลีผล อายุ 60 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพา เกิดอาการเครียด ถึงขั้นชักปืนโชว์ต่อหน้านักเรียนขณะเข้าแถวหน้าเสาธง นั้นได้มีคลิปแพร่ไปยังสื่อโซเซียลต่างๆเป็นประเด็น ส่งผลให้ทางสภ.เทพาได้ตั้งทีมพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเอาผิดอย่างเร่งด่วน โดยที่ พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผู้กำกับการ สภ.เทพา ได้เปิดเผยกับสื่อว่า ขณะนี้ได้ดำเนิการในรูปคดีตั้งข้อหาสำหรับดำเนินการไว้ 2 ส่วน คือ ดคีแรกที่ผู้เป็นมารดาของเด็กนักเรียนสาวได้มาแจ้งความไว้พร้อมหลักฐาน และส่วนที่สอง คือ คดีอาวุธปืนที่พกพาอาวุธปืนเข้ามาสถานศึกษา โดยจะรวบเป็น 3 ข้อหาซึ่งต้องรอสอบปากคำและผลการยืนยืนทางหลักฐานประกอบคดี หากมีผู้ใดที่เกี่ยวกับกับเหตุการณ์คดีนี้สามารถมาติดต่อให้ปากคำเพิ่มเติมได้ ในส่วนเรื่องการเผยแพร่วีดิโอคลิปและรูปภาพต่างๆ ขอให้ประชานหยุดการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว เพราะมิอาจทราบว่าข้อมูลนั้นจิงหรือเท็จเพียงใดซึ่งจะสามารถเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดที่ทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียงอีกนัยหนึ่ง หากคดีมีความคืบหน้าอย่างไรทางทีมข่าวหาดใหญ่ทูเดย์จะมารายงานให้ทราบอีกครั้ง HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : สภ.เทพา Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine