ข่าวภาคใต้

กกพ.จ่อปรับค่าเอฟที งวดเดือน ก.ย.- ธ.ค. อาจทำให้ค่าไฟพุ่งเกือบ 5 บาทต่อหน่วย วันที่ 11 ก.ค. 65 สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กกพ. อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวน และปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) งวดเดือน ก.ย.- ธ.ค. 2565 โดยมีแนวโน้มพุ่งสูงถึง 90-100  สตางค์ต่อหน่วย และอาจทำให้ค่าไฟฟ้าต้องปรับเพิ่มสูงถึงเกือบ 5 บาทต่อหน่วยช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ.จะประกาศค่าเอฟทีงวดดังกล่าวอย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือนก.ค.หรือต้นเดือนหน้า โดยค่าเอฟที สูงขึ้น เพราะต้นทุนค่าเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) นำเข้าเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ยังมีแนวโน้มราคาแพงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 จนถึงปัจจุบัน โดยราคาLNG นำเข้าตอนนี้พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนพุ่งสูงแตะระดับ 30 กว่าดอลลาร์ต่อล้านบีทียูแล้ว จากเดิมอยู่ที่ 20 กว่าดอลาร์ต่อล้านบีทียู รวมถึงภาระต้นทุนจากการอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยประมาณการค่าเฉลี่ยเดือนพ.ค. 2565 อยู่ที่ 34.40 บาทต่อดอลลาร์ ถือเป็นปัจจัยที่นอกเหนือการควบคุม ทั้งนี้ […]

รัฐบาลชี้แจง ภาคเอกชนยืนยันรับฟังความเห็นทุกฝ่าย เร่งเครื่องโครงการเมืองต้นแบบจะนะ วันที่ 11 ก.ค. 65 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงข้อเรียกร้องของสภาธุรกิจจังหวัดสงขลา เมื่อ 9 ก.ค. 65 ที่ต้องการให้สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เร่งขับเคลื่อนโครงการเมืองต้นแบบ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตามแนวคิดเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ว่า ขณะนี้ทาง สศช. กำลังเข้าสู่กระบวนการจัดจ้างสถาบันการศึกษาเพื่อจัดทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment-SEA) ตามข้อเรียกร้องของภาคประชาสังคม โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับข้อคิดเห็นของประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนที่อยากเห็นโครงการเกิดขึ้นในเร็ววันเพราะจะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของคนในพื้นที่ และกลุ่มผู้ที่ยังมีความกังวลอยู่ในบางเรื่อง ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือ การทำการศึกษาให้รอบคอบและเป็นไปอย่างมีส่วนร่วมโดยสถาบันที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ และเมื่อได้ข้อสรุปก็ขอให้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน เพื่อจับมือกันเดินสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป นางสาวรัชดา ยังกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีเข้าใจในความเห็นต่างของแต่ละภาคส่วน อย่างไรก็ตามขอให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ต้องการสร้างการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้มีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้มั่นคง ดังนั้น การนำโครงการพัฒนาเข้าสู่พื้นที่จึงเป็นเรื่องจำเป็น และจะได้รับการผลักดันบนพื้นฐานการวางแผนอย่างรอบคอบ สอดรับกับความต้องการของคนในพื้นที่ รัฐบาลยืนยันให้การสนับสนุนในทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแน่นอน อ้างอิง : สำนักนายกรัฐมนตรี

คึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวชายหาดสมิหลา จ.สงขลา วันที่ 11 ก.ค. 65 บรรยากาศการท่องเที่ยวชายหาดสมิหลาวันฮารีรายอคึกคักตลอดทั้งวัน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวด้วยรถบัสและรถยนต์ส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลฮารีรายอและเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาบริเวณชายหาดสมิหลาสงขลาตลอดทั้งวัน ทำให้ชายหาดสมิหลาคึกคัก ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะที่บริเวณนางเงือกทอง สัญลักษณ์ชายหาดสมิหลา นักท่องเที่ยวก็เข้าคิวกันถ่ายรูปเหมือนเช่นที่ผ่านมา เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่ได้เข้ามาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 และวันนี้ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ได้มีโอกาสกลับมาเยือนชายหาดสมิหลาอีกครั้งหนึ่ง ก็จำเป็นต้องถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกให้หายคิดถึงนางเงือกทอง ในขณะเดียวกันในวันนี้เป็นช่วงวันหยุดยาว ก็มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดสมิหลาเช่นเดียวกัน ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายเครื่องดื่มและอาหารประเภทกุ้งทอด ปูทอดและหมึกทอด ริมชายหาดสมิหลาก็ขายดิบขายดีเช่นเดียวกัน รวมทั้ง ร้านขายเสื้อผ้าและของที่ระลึกกว่า 20 ร้านก็มีลูกค้าทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวมาเลเซียเข้ามาเลือกซื้อเสื้อผ้าเพื่อนำกลับไปเป็นของฝากให้กับญาติพี่น้องและคาดว่าในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันท่องเที่ยวเยี่ยมญาติของเทศกาลฮารีรายอจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยมุสลิมจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาเป็นจำนวนมากเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลทำให้ชายหาดสมิหลาสงขลากลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งและมีเงินหมุนเวียนเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจในจังหวัดสงขลา หลังมีการเปิดประเทศและมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์และอินโดนีเซียเข้ามาท่องเที่ยวตามปกติแล้ว อ้างอิง : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

สงขลา เกิดเหตุรถชนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ วันที่ 11 ก.ค. 65 หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง)หาดใหญ่ ได้รับแจ้งและออกไปตรวจสอบอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต ระหว่างรถยนต์โดยสารสาธารณะขนาดเล็กกับรถจักรยานยนต์ บริเวณปากซอย8 อัมพวัน พื้นที่ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เบื้องต้นในที่เกิดเหตุฝ่ายรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ2ราย เสียชีวิต1ราย ผู้บาดเจ็บรายแรกเป็นหญิงอายุ 39 ปี อยู่ในอาการมึนงง มีแผลฉีกขาดที่ศรีษะ4ซม. แขนขวาหักผิดรูป รายที่สองเป็นเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ มีแผลถลอกตามร่างกาย จนท.กู้ภัยได้เข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลอย่างและนำผู้บาดเจ็บส่งร.พ.หาดใหญ่ ส่วนอีกรายเป็นชายอายุ 39 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ สภาพที่หน้าผากยุบมีบาดแผลยาว10ซม. โดยจนท.กู้ภัยได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปเก็บรักษาไว้ที่ร.พ.หาดใหญ่เช่นเดียวกัน และทางด้านร้อยเวรสอบสวนสภ.หาดใหญ่ ได้นำผู้ขับขี่รถยนต์โดยสารสาธารณะขนาดเล็กไปสอบสวนที่โรงพักอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป อ้างอิง : หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง)หาดใหญ่

หาดใหญ่ เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน เจ็บ 3 ราย บริเวณแยกป่าไม้ ถ.กาญจนวนิช วันที่ 10 ก.ค. 65 เกิดอุบัติเหตุรถยต์เก๋งส่วนบุคคลชนกัน 2 คัน และมีผู้บาดเจ็บรวม 3 ราย (ผู้ใหญ่1 เด็ก2) บริเวณแยกป่าไม้ ถนนกาญจนวนิชตัดกับถนนนวลแก้ว ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง)หาดใหญ่ พร้อมรถพยาบาลเข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บและนำส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งส่วนใหญ่มีแผลถลอกและฟกช้ำตามร่างกาย อ้างอิง : กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง)หาดใหญ่