สงขลา แจงดราม่า!! พระอยู่บ้านเดียวกับสีกา ที่แท้เป็นพี่น้องกัน เจ้าคณะจังหวัดเรียกสอบพร้อมตักเตือน
วันที่ 11 พ.ย. 64 ตามที่ปรากฏข่าวในโลกโซเชียลที่ได้โพสต์ภาพพระสงฆ์อยู่ที่บ้านกับผู้หญิงเพียงลำพัง ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นจนกลายเป็นกระแสดัง
ต่อมาทางสถานีตำรวจภูธรทุ่งตำเสาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า พระภิกษุดังกล่าว มีนามว่า พระมหาสุภักดิ์ ธมฺมรกฺขิโต บรรพชาเมื่อ 9 มิถุนายน 2517 อายุ 68 ปี เลขที่ใบสุทธิ 21/2517 สังกัดวัดเอี่ยมวรนุช กรุงเทพฯ หลังจากนั้นได้ไปจำวัดอยู่ที่วัดไทยเชตวัน กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในมาเลเซีย เมื่อ 21 ม.ค. 62 จึงเดินทางกลับประเทศไทย มาจำวัดในฐานะพระอาคันตุกะ วัดคลองเรียน อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา จนกระทั่งปรากฏภาพดังที่ปรากฏนั้น พระภิกษุท่านดังกล่าว ได้มาช่วยน้องสาวดูแลการก่อสร้างบ้านที่เกิดเหตุเพื่อรองรับพระอาคันตุกะที่จะเดินทางมาจากมาเลเซียก่อนที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเป็นที่ติเตียนของผู้ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง มองไปทางชู้สาว อีกทั้งยังเข้าใจไปว่าเป็นเจ้าคณะอำเภอแห่งหนึ่ง

ทั้งที่พระภิกษุรูปดังกล่าวเป็นเพียงพระลูกวัดหาใช่เจ้าคณะอำเภอแต่อย่างใด หากปล่อยให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก อาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่พระภิกษุสงฆ์ส่วนใหญ่และพุทธศาสนาอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ ทั้งนี้ทางพระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลา, พระปลัดสุภวัฒ สุวณโณ เจ้าคณะตำบลทุ่งตำเสา พระมหาสันชัย ฐิตเมโธ เจ้าอาวาสวัดคลองเรียน พระสมุห์วิศรุต เตชฌาโณ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอหาดใหญ่ พระสมุห์พงศ์ศักดิ์ พรหมฌาโณ เลขานุการเจ้าคณะตำบลท่าข้าม พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิสฤษฎิ์ มณีโชติ ผกก.สภ.ทุ่งตำเสา และพ.ต.ท.นิทัศน์ บุญวรรณโณ สวป.สภ.ทุ่งตำเสา ได้ร่วมกันเชิญพระมหาสุภักดิ์ มาชี้แจงทำความเข้าใจถึงที่มาของประเด็นปัญหา เพื่อหามาตรการป้องกันปัญหาอันอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียของพระภิกษุสงฆ์ในภาพรวม มีข้อสรุปดังนี้

1. บ้านที่เกิดเหตุเป็นของนางสาวณิชกานต์ ตุ้งโรจน์ น้องสาวของพระมหาสุภักดิ์ ไม่ใช่ของพระมหาสุภักดิ์ สาเหตุที่ไปที่บ้านดังกล่าวเนื่องจากอยู่ระหว่างก่อสร้างเข้าไปช่วยเหลือดูแลให้น้องสาวและญาติๆ ไม่มีเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด
2. พระมหาสุภักดิ์ เป็นพระสังกัดวัดเอี่ยมวรนุช กรุงเทพฯ ขณะเกิดเหตุเป็นพระอาคันตุกะวัดคลองเรียน อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ไม่ได้เป็นเจ้าคณะอำเภอแห่งหนึ่งแห่งใดแต่อย่างใด

3. ทางฝ่ายเจ้าคณะผู้ปกครอง ได้อบรมตักเตือนพระมหาสุภักดิ์ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว แม้จะเป็นพี่ชายน้องสาวกัน แต่ดูไม่เหมาะสม เป็นที่ติเตียนของชาวโลกได้ ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่าให้สังคมเข้าใจผิด โดยหลีกเลี่ยงอย่าให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวอีก หากมีความจำเป็นต้องเข้าไปให้แจ้งความจำเป็นกับเจ้าคณะตำบลเสียก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

4. หากพระมหาสุภักดิ์ มีความประสงค์จะย้ายสังกัด ให้ดำเนินการให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวกในการเดินทาง โดยในชั้นนี้พระมหาสุภักดิ์ ตกลงใจว่าจะเดินทางไปจำวัดที่วัดศรีมหาโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จว.ปัตตานี ที่เคยบรรพชามาก่อนและจะไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
อ้างอิง : สถานีตำรวจภูธรทุ่งตำเสา