ทนายพี่อาร์ม ออกโรงเดินหน้าแก้ปัญหานักเรียนหาดใหญ่โดนครูหื่นลวนลาม สืบเนื่องจากกรณีของนักเรียนหาดใหญ่ไม่ทน ขุดแฉโซเชี่ยลโดนครูหื่นลวนลาม ในตอนนี้เป็นเรื่องที่ดังในสังคมพอสมควรทำให้ชาวเน็ตออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาใหญ่ในทางด้านสถานศึกษาในสังคมไทย จนล่าสุดทางด้าน นาย พงศธร สุวรรณรักษา หรือทนายพี่อาร์ม ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับกรณีนักเรียนถูกครูหื่นลวนลาม ระบุใจความว่า “จากข่าวฉาวโรงเรียนดังย่านพรุค้างคาว ซึ่งแน่นอนว่าคือโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 โรงเรียนที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้พี่อาร์มมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ถึง 6 โรงเรียนสอนให้พี่อาร์มคิดถึงผู้อื่นไม่ใช่คิดถึงแค่ตนเอง โรงเรียนสอนให้สนใจปัญหาสิ่งรอบข้างไม่ใช่สนใจแค่ปัญหาตนเอง วันนี้พี่อาร์มจะขอยึดมั่นในคำสอน และจะขอเป็นผู้กำจัดเหลือบไรที่แฝงอยู่ในคราบ “คุณครู” ทันทีที่ได้เห็นข่าวบอกตรงๆ ว่าทนไม่ได้กับพฤติกรรมระยำ ของบุคคลที่อยู่ในข่าว พี่อาร์มจะขอให้วิชาชีพทนายความที่ได้ร่ำเรียนมาเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม ทั้งนี้เรื่องนี้ใครเป็นศิษย์เก่าคงจะอ่านแล้วก็นึกถึงหน้าบุคคลนั้นออก แต่พี่อาร์มย้ำเสมอการจะกล่าวหาการจะกล่าวโทษบุคคลใดบุคคลหนึ่งเราต้องมีพยานหลักฐานที่มากเพียงพอ เพราะนั้นคือสิทธิของอีกฝ่ายเช่นกัน การต่อสู้ของพี่อาร์มจะไม่เน้นด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ไม่ต้องไปประท้วงให้เสียการเสียงาน ไม่ต้องแต่งชุดอะไรไม่ต้องชูนิ้ว พี่อาร์มจะดำเนินการจากโรงเรียนไปเขตพื้นที่การศึกษา ไปกระทรวง ไปกรรมาธิการรัฐสภา และไปที่ศาลยุติธรรม เรื่องเดินช้าหน่อยแต่ได้ผลลัพธ์แน่นอนพร้อมมีการชี้แจงทุกขั้นตอนที่ดำเนินการ อยากให้ลูกหลานญว 2 หรือคนที่ไม่อยากให้ปัญหานี้ลอยมาแล้วสุดท้ายก็ลอยไป ช่วยกันแชร์โพสต์นี้ ให้น้องๆหรือคนที่มีพยานหลักฐานเอาผิดช่วยส่งข้อมูลให้พี่อาร์ม พี่อาร์มยืนยันด้วยเกียรติว่าทุกอย่างเป็นความลับ และจะดำเนินการให้ถึงที่สุด “ ซึ่งทนายพี่อาร์มเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนที่มีเรื่องอื้อฉาวในครั้งนี้ ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรทางทีมข่าวจะมารายงานให้ทราบถึงข้อสรุปอีกครั้งนึง HATYAITODAYNEWS อ้างอิง […]
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศพายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม วันนี้ 12 ต.ค. 63 พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) “หลิ่นฟา” ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) บริเวณเมืองอัตตะปือ ประเทศลาว แล้ว ทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 11–12 ตุลาคม 2563 มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือขนาดเล็กงดการเดินเรือ โดยพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ […]
สถานการณ์โควิด-19 วันที่ 12 ตุลาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย เข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) วันที่ 12 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ได้เสนอข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) สำหรับรายละเอียดของผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย มีดังนี้ เป็นคนไทย ทั้ง 5 ราย ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ จาก ฮ่องกง 1 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย สิงคโปร์ 1 ราย […]
เฮ ราคาปาล์มขยับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รัฐบาลเผยพร้อมพัฒนาระยะยาว สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ระดับราคาปาล์มน้ำมันตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมาได้ขยับตัวสูงขึ้น สูงกว่าราคาที่รัฐบาลได้ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท ปัจจัยสำคัญมาจากการดำเนินการของภาครัฐที่ได้ออกมาตรการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาด ได้แก่ 1) กำหนดให้น้ำมันไบโอดีเซล B10 เป็นน้ำมันมาตรฐาน แทน B7 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา คาดว่าจะช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบได้ประมาณปีละ 2.2 ล้านตัน และส่งเสริม B20 ให้เป็นพลังงานทางเลือก 2) ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 3.6 แสนตัน ซึ่งได้ดำเนินการครบแล้ว 3) ผลักดันการส่งออกนำ้มันปาล์มส่วนเกิน 3 แสนตัน ภายในปี 2564 และ 4) เดินหน้าติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบของโรงงาน เพื่อทราบปริมาณน้ำมันที่มีอยู่จริงซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญต่อการบริหารสต๊อกให้มีเสถียรภาพ ส่วนเรื่องการป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญเพราะเป็นปัจจัยที่จะทำให้ราคาพืชผลเกษตรลดลงและชาวสวนปาล์มมีความกังวลอยู่ ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีมาตรการป้องกันไว้ คือ การกำหนดด่านเฉพาะ 3 ด่าน […]
สงขลา-เกาะยอ เตือนระมัดระวัง วัยรุ่นปาหินระบาดบริเวณสะพานติณสูลานนท์ วันที่ 12 ต.ค. 63 เวลา 02.05 น. สายตรวจรถยนต์ 202 ตำรวจภูธรเมืองสงขลาออกตรวจพบวัยรุ่นขี่จักยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อซ้อน 3 ขว้างก้อนหินใส่เรือบริเวณสะพานติณสูลานนท์ (สะพาน1) ฝั่งขาเข้า โดยทางร้อยเวรที่ออกตรวจ ขับตรวจเส้นทางตลอดสาย พบว่าบุคคลดังกล่าวหลบหนีไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมหลักฐานเพื่อตรวจสอบต่อไปอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขอเตือนให้ประชาชนในพื้นที่สงขลาและผู้ที่สัญจรไปมาขอให้ระมัดระวัง แต่หากพบเบาะแสเพิ่มเติมสามารถแจ้งมาได้ทันที HATYAITODAYNEWS อ้างอิง : ตำรวจภูธรเมืองสงขลา
เรื่องอื้อฉาว นักเรียนหาดใหญ่ไม่ทน ขุดแฉโซเชี่ยลโดนครูหื่นลวนลาม วันที่ 11 ต.ค. 63 ได้มีทางเพจ ความจริงประเทศไทย ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพลงเพจเฟซบุ๊ก มีใจความดังนี้ โรงเรียนชื่อดังย่านพรุค้างคาว นักเรียนหาดใหญ่ไม่ทน ขุดแฉโลกโซเชี่ยล โดนครูหื่นลวนลาม ส่องหน้าอก-ชวนขายตัว เด็กโดนแล้วหลายคน ด้านโลกโซเชียลด่ายับ บุคกรต่ำตม-การศึกษาไม่พัฒนา พฤติกรรมของครูพละคนดังกล่าว มีการจ้องหน้าอกนักเรียนหญิงหลายคน และบ่อยครั้งมีการพูดว่า “เธอนี่นมใหญ่จัง ไปขายบริการได้เลยผู้ชายชอบ” นอกจากนี้ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์รูปทรงของนักเรียนหญิง ตลอดจนการลวนลามทางคำพูดล่อแหลมเช่น “ถ้าเธอไปขายบริการนะ ครูจะไปอุดหนุนเอง” เด็กนักเรียนคนหนึ่งระบุว่า “จำฝังใจเลย ครูคนนี้ชอบใส่แว่นดำ แล้วให้นักเรียนหญิงก้มเยอะๆ มันจะแอบดูนม โคตรเกลียด โดนตั้งแต่ ม.ต้น ตอนนี้หนูเรียนมหาลัยแล้วก็ยังไม่เลิกเกลียดมัน” ขณะที่อดีตนักเรียนหลายคอมเมนท์ระบุว่า พฤติกรรมครูดังกล่าวทำมาเป็นระยะเวลานานแล้วนับสิบปี จนเป็นที่กล่าวขานของเด็กหลายรุ่น นอกจากนี้ยังมีการใช้ความรุนแรงกับเด็กทั้งคำพูดและการกระทำ เช่น การใช้ไม้เทนนิสตีหัวเด็ก การตบหัวเด็กอย่างแรง ตลอดจนการใช้ถ้อยคำหยาบคาย อาทิ อีเหี้ย อีควาย พ่อมึงตาย เป็นต้น […]