คลายล็อกน่านฟ้า อนุญาตให้เครื่องบินผ่านบินเข้าออกนอกราชอาณาจักรได้บางส่วน 1 ก.ค.นี้
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. ได้ขยายเงื่อนไขการอนุญาตให้บริการการบินระหว่างประเทศได้ทั้งอากาศยานบินผ่าน บินเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้นลงในราชอาณาจักร เมื่อได้รับการอนุญาตการบินจากสานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
อากาศยานบินผ่าน บินเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักรที่อนุญาต ประกอบด้วย
1.อากาศยานราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร (State or Military aircraft)
2.อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน (Emergency landing)
3.อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิค (Technical landing) โดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง
4.อากาศยานที่ทำการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือการขนส่งสิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด –19 (Humanitarian aid, medical and relief flights)
5.อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยหรือกลับภูมิลำเนา (Repatriation)
6.อากาศยานขนส่งสินค้า (Cargo aircraft)
สำหรับอากาศยานขนส่งคนโดยสารที่จะทำการบินผ่านบินเข้า-ออกนอกราชอาณาจักรภายใต้เงื่อนไข 11 ข้อ คือ
1.ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
2.ผู้ที่มีเหตุยกเว้นหรือกรณีที่นายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินกำหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักร ได้ตามความจำเป็น โดยอาจกำหนด เงื่อนไขและเงื่อนเวลาก็ได้
3.รวมถึงผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย
4.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรหรือได้รับอนุญาตให้มี ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
5.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงาน ในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ตลอดจนคู่สมรสหรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
6.ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น แต่เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกนอกราชอาณาจักรไปโดยเร็ว
7.ผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะซึ่งจำเป็นต้องเดินทางเข้ามา ตามภารกิจและมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน
8.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถานศึกษาในประเทศไทย ที่ทางการไทยรับรอง ตลอดจนบิดามารดาหรือผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว
9.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตามของบุคคลดังกล่าว แต่ต้องไม่เป็นกรณีเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลโรคโควิด –19
10.บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
11.ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลง พิเศษ (special arrangement) กับต่างประเทศ
ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจาากทางอากาศยาน และผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจะต้องปฏิบัติ ตามเงื่อนไข เงื่อนเวลาและหลักเกณฑ์ของผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศและกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีผลบังคับใช้ อยู่เพื่อการป้องกันโรคและจัดระเบียบจำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับ ความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองและการจัดสถานที่ไว้กักกัน (quarantine) เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในต่างประเทศยังคงมีความรุนแรง จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการจำกัดการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ให้สอดคล้องกับความสามารถในการจัดการคัดกรองของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรการป้องกันโรคและ เพื่อการควบคุมและป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิงข้อมูลจาก :กรมข่าวประชาสัมพันธ์