รมต. อนุชา ตรวจเยี่ยมฟาร์มเกษตรประชารัฐกองทุนหมู่บ้านบ้านท่าโพธิ์ตก ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา
วันที่ 19 มิ.ย. 65 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ณ ฟาร์มเกษตรประชารัฐกองทุนหมู่บ้านบ้านท่าโพธิ์ตก หมู่ที่ 3 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา นายธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 นายสุรชาติ หมาดหลี ประธานกองทุนหมู่บ้านและประธานสถาบันการเงินบ้านท่าโพธิ์ตก หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่นและสมาชิกกองทุนหมู่บ้านในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับและมอบดอกไม้ให้กำลังใจ
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2544 ถึงปัจจุบัน เป็นปีที่ 21 เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดรายจ่าย บรรเทาเหตุฉุกเฉิน และความจำเป็นเร่งด่วน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของชุมชน เป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับฐานรากของประเทศ โดยให้หมู่บ้าน/ชุมชนบริหารจัดการด้วยคุณค่าและภูมิปัญญาของตนเอง เกื้อกูลประโยชน์ต่อผู้ด้อยโอกาสในหมู่บ้านและชุมชน เสริมสร้างการเชื่อมโยงกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างชุมชน ราชการ และประชาสังคม เพื่อนำไปสู่การเสริมสร้าง “ความเข้มแข็ง” ของหมู่บ้านและชุมชนให้มีความยั่งยืน
สำหรับอำเภอสะเดา มีกองทุนหมู่บ้านจำนวน 71 กองทุน ดำเนินการจดทะเบียนกองทุนเป็นนิติบุคคลแล้วทั้งสิ้น 71 กองทุน ได้รับการจัดสรรเงินทุนจากรัฐบาลตั้งแต่ปี 2544 และได้รับการจัดสรรเพิ่มทุนระยะที่ 1, 2 และ 3 จนถึงปัจจุบันรวมเงินทุนที่ได้รับจัดสรรจากรัฐบาลทั้งสิ้น 77,900,000 บาท ซึ่งเงินทุนจำนวนดังกล่าว คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านนำมาบริหารจัดการโดยการให้สมาชิกกู้ยืมเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการประกอบอาชีพเสริม สร้างงาน สร้างรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน
ต่อมาในช่วงปี 2559 – 2563 รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สนับสนุนงบประมาณโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ เพื่อเพิ่มปริมาณการลงทุนในระดับชุมชนผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อใช้ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน และเพื่อดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ ที่กองทุนเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในหมู่บ้านให้ดีขึ้น
อ้างอิง : สำนักนายกรัฐมนตรี