ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่ออีก 2 เดือน ปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 4 ทุ่มถึงตี 4 เริ่ม 1 ต.ค. 64

ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่ออีก 2 เดือน ปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 4 ทุ่มถึงตี 4 เริ่ม 1 ต.ค. 64

วันที่ 27 ก.ย. 64 ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จะเป็นประธานการประชุม พิจารณาขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน หรือจนถึงวันที่ 30 พ.ย. 64

S 19144720

ทั้งนี้ผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด-19 ของ 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพฯ, กาญจนบุรี, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ตาก, นครปฐม, นครนายก, นครราชสีมา, นราธิวาส, นนทบุรี, ปทุมธานี, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, ปัตตานี, พระนครศรีอยุธยา, เพชรบุรี, เพชรบูรณ์, ยะลา, ระยอง, ราชบุรี, ลพบุรี, สงขลา, สิงห์บุรี, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สระบุรี, สุพรรณบุรี, อ่างทอง

S 19144722

สามารถเปิด : โรงภาพยนตร์ การเล่นดนตรีในร้านอาหาร ศูนย์พัฒนาเด็กฯ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ ร้านสัก ร้านทำเล็บ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กีฬาในร่ม

.• ลดเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน เป็น 4 ทุ่ม – ตี 4

• ขยายเวลาเปิดร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด ถึง 3 ทุ่ม

• ร้านอาหาร เปิดถึง 3 ทุ่ม : แสดงดนตรีในร้านได้ (ร้านไม่ติดแอร์ นั่งได้ 75 %, ร้านติดแอร์ นั่งได้ 50% งดดื่มสุราในร้าน)

• ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดถึง 3 ทุ่ม (ไม่เปิด ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก สวนน้ำ ห้องประชุม/จัดเลี้ยง)

• เปิดร้านเสริมสวย สถานเสริมความงาม ทุกประเภท ไม่เกิน 3 ทุ่ม (ยกเว้นการใช้ไอน้ำ)

• สถานที่เล่นกีฬา เปิดถึง 3 ทุ่ม แข่งขันได้ไม่มีผู้ชม (กีฬากลางแจ้ง แข่งขันได้ ผู้ชมไม่เกิน 25% ตามเงื่อนไขที่กำหนด)

S 18456724

อ้างอิง : ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19

Next Post

รมช.นิพนธ์ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำอำเภอหาดใหญ่ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย

Mon Sep 27 , 2021
รมช.นิพนธ์ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำอำเภอหาดใหญ่ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย วันที่ 27 ก.ย. 64 ) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ ที่บริเวณประตูระบายน้ำหน้าควน อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะเยอะกว่าปีที่แล้ว  ซึ่งขณะนี้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยกำลังได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่าน ดังนั้นพื้นที่ภาคใต้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม – ธันวาคม จะเข้าสู่ช่วงมรสุม จึงต้องวางแผนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ก่อนน้ำมา ตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ  สำหรับ “โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ”  เป็นโครงการที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำริในการแก้ไขและบรรเทาอุทกภัยเมืองหาดใหญ่ และการลงพื้นที่ติดตามในครั้งนี้เป็นการติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ ระยะที่ 2 เป็นการปรับปรุงคลอง ร.1 เดิมระบายอยู่ที่ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งจะปรับปรุงให้ระบายน้ำได้ 1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทั้งนี้ ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ มีคลองอู่ตะเภาที่ไหลผ่านอำเภอหาดใหญ่ โดยในปี 2553 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ขณะนั้นมวลน้ำที่ไหลมาลงคลองอู่ตะเภาประมาณ 1,600 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ในขณะที่คลองอู่ตะเภาสามารถระบายน้ำได้เพียง 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่ง จึงเป็นที่มาของการปรับปรุงคลอง ร.1 เมื่อการระบายน้ำของ คลอง ร.1 และคลองอู่ตะเภา รวมกันแล้วจะทำให้สามารถระบายน้ำได้ 1,660 ลูกบาศก์เมตร/วินาที  โดยความคืบหน้าการดำเนินงานของโครงการ คิดเป็นร้อยละ 91.5 คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565 อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการดำเนินงานจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์  แต่สามารถช่วยระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากที่จะมาถึงได้ จากการประเมินศักยภาพ พบว่าสามารถระบายน้ำได้ประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที คาดว่าจะสามารถป้องกันบรรเทาปัญหาอุทกภัยให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ได้ พร้อมเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้งอีกด้วย อ้างอิง : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา , สำนักงานชลประทานที่ 16  Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
ปกข่าว 01