รองผู้ว่าฯกระบี่ ชี้แจงไม่พอใจ ผู้ว่าภูเก็ตฯที่ปล่อยแรงงานกลับบ้านเสี่ยงติดเชื้อโควิดเพิ่ม
หลังจากที่มีการประกาศของจังหวัดภูเก็ตให้แรงงานต่างจังหวัดที่ลงทะเบียนที่ขอกลับบ้านไว้กว่า 40,000 คนได้เดินทางออกจากเกาะภูเก็ตล็อตแรกเวลา 05.00-15.00 น. รวมแล้วหลายพันคน เนื่องจากไม่มีงานทำและไม่มีรายได้ ว่า จังหวัดภูเก็ต ได้มีหนังสือหารือไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทย และล่าสุด ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ส่งหนังสือ ที่ มท 0230/ 6963 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยมีสาระสำคัญ คือ จะพิจารณาให้บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโน 2019 และไม่สามารถดำรงชีพ ในการพักพิงอาศัยในจังหวัดภูเก็ต เดินทางออกนอกจังหวัดกลับภูมิลำเนาได้
ส่งผลให้ นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้สัมภาษณ์ผ่านเพจกระแสข่าวชาวกระบี่ ที่ด่านตรวจบ้านนาเหนือ รอยต่อระหว่าง จ.พังงา และ จ.กระบี่ หลังจากมีคนที่เดินทางออกจังหวัดผ่านด่านตรวจดังกล่าวจำนวนมาก เพื่อเดินทางต่อไปยังภูมิลำเนา ซึ่งถ้อยคำบางคำพูดของรองผู้ว่าราชการจังหวัดคนดังกล่าว ได้สร้างความไม่พอใจให้แก่โลกโซเชียลเป็นอย่างมาก ดังนี้
“ในกรณีที่กล่าวถึงการปล่อยคนออกจากจังหวัดภูเก็ต ทั้งๆ ที่ยังไม่ควรปล่อยออกไปในขณะนี้ เพราะสถานการณ์ยังไม่นิ่ง เหมือนกับคุณกำลังปล่อยเชื้อโรคให้คนอื่นซึ่งมันไม่แฟร์ ในขณะที่บางจังหวัดเขามีการจัดการที่ดี เช่น จังหวัดกระบี่ ที่ทุ่มเทกำลังทุกภาคส่วน แต่ภูเก็ตไม่มีการคัดกรองอะไร ไม่มีใบรับรองแพทย์ รับรองอะไรเลย คุณกำลังแจกจ่ายให้แก่กระบี่ ตรัง สตูล ซึ่งไม่แฟร์ ในการควบคุมโรคระบาดการประกาศใดๆ ทางกระทรวงสั่งแล้วว่าจะต้องทำร่วมกันเพราะกระทบร่วมกัน”
จากที่มีการเผยแพร่คำพูดของรองผู้ว่า ทำให้เกิดความไม่พอใจของประชาชน และมีล่าสุเพจ “คนภูเก็ต” ได้โพสต์ข้อความตอบโต้ถึงรองผู้ว่าฯ โดยระบุว่า “คนที่เดินทางออกไปก็มี คนกระบี่อยากกลับบ้านเกิดตนเอง มาตรการกักกันภายในจังหวัดท่านไม่มีหรือ? และคนที่จะเดินทางออกไปก็โดนตรวจสอบโดนกักกันโรคมาแล้วภายในจังหวัด 18 วัน คนที่กลับไปท่านก็สามารถทำประวัติและดำเนินการได้ แต่การพูดโดยใช้คำเหมารวม ว่า ภูเก็ตปล่อยคนมาแพร่เชื้อให้จังหวัดอื่นมันไม่แฟร์ แปลว่าท่านไร้ซึ่งความคิด คนภูเก็ตไม่ใช่ผู้ติดเชื้อทั้งจังหวัด ท่านเหมารวมแบบนี้ ท่านควรพิจารณาตนเองว่ายังเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งหรือไม่! หากภูเก็ตไม่ดี เหตุใดคนต่างจังหวัดถึงนิยมมาทำงาน ยามได้มั่งมีไม่เคยพูด ยามล้มลำบาก กลับเหยียบย่ำ นี่หรือ ข้าราชการ!?”
นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จึงรีบได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่า “ยอมรับว่าที่พูดให้สัมภาษณ์ไป เกิดจากการไตร่ตรองที่ไม่ถี่ถ้วน จึงอยากขอโทษกับสิ่งที่พูดไป และยินดีที่จะชี้แจงในทุกรูปแบบ ในเรื่องของการแพร่เชื้อ มันเป็นปัญหาที่กระทบกันในหลายจังหวัด ตนจึงอยากขอโทษชาวภูเก็ตทุกคนด้วย” และเปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ตเปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนเพื่อเดินทางออกนอกพื้นที่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ทำให้ประชาชนจากจังหวัดภูเก็ตเดินทางออกมานอกพื้นที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเดินทางมาที่จังหวัดกระบี่ โดยจะเดินทางเข้ามาทางอ่าวลึก จังหวัดกระบี่จึงได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ หลังจากที่ต้องใช้ความพยายาม ทุ่มเทกำลังบุคลากรและทรัพยากร อย่างมาก ในการค้นหาผู้ป่วยให้พบมากที่สุด เพื่อนำผู้ติดเชื้อมารักษา ทำให้พื้นที่ไม่มีผู้ป่วย
ดังนั้น เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจากพื้นที่หนึ่งมายังอีกพื้นที่หนึ่ง จังหวัดกระบี่ จึงกำหนดมาตรการเข้มข้นที่จุดตรวจจุดคัดกรองระหว่างจังหวัดทุกจุด ไม่เฉพาะที่อำเภออ่าวลึกที่รับผู้เดินทางจากจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา เท่านั้น แต่พิจารณาถึงการเดินทางเข้าออกของประชาชนจากพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งการเดินทางผ่านจังหวัดกระบี่ และการเดินทางเข้ามามีจุดหมายที่จังหวัดกระบี่ จากจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดตรัง รวมทั้งการเดินทางด้วยสายการบิน เดินทางทางเรือมาที่ท่าเรือต่าง ๆ ล้วนเป็นความห่วงใยที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งต้องนำแนวนโยบายในการรักษาความปลอดภัยเป็นลำดับแรก รวมทั้งบริบทเหตผลความจำเป็นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องยึดถือประกาศและนโยบายของรัฐบาล ประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นตังกำหนด
อ้างอิงข้อมูลจาก :ข่าวภาคใต้ คนภูเก็ต สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่