สรุปนายกฯ แถลงภายหลังการประชุมครม. วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2563
เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า วันนี้เป็นที่น่ายินดีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทยอยลดลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดให้รัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.
สรุปประเด็นต่างๆที่ประชาชนตั้งข้อสงสัย
1.เรื่องมาตราการหลักเกณฑ์ต่างๆของสาธารณสุข ยังคงต้องรอดูสถานการณ์ว่าสามารถผ่อนปรนอะไรได้บ้าง ซึ่งจะมีการเตรียมการไว้แล้วแต่สถานการณ์ตอนนี้ยังคงต้องคลี่คลายสถานการณ์หาหนทางที่ดีที่สุด
2.เรื่องการใช้ พรบ.ฉุกเฉินที่จะหมด 26 เมษายน 2563 นี้ จะอยู่ในการประเมินของศูนย์โควิด19 ต้องนำข้อมูลมาวิเคราะห์ซึ่งแนวโน้มสถานการณ์อีกครั้งต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาค ส่วนรัฐบาลจะหามาตรการอื่นๆมาทดแทนหรือไม่ต้องรอดูปัจจัยต่างๆของประเทศและในพื้นที่บางจังหวัด
3.การรับคนไทยกลับมาจากประเทศและการส่งชาวต่างชาติกลับประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้งในประเด็นนี้
4.ปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน 5000 บาท ,ปัญหาประกันสังคม, การลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต , การเข้ารับการรักษาฟรี,การพักหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย, ปัญหาเกษตรกร ,นักเรียน-นักศึกษา, ระบบแรงงาน ,สภาพเศรษฐกิจต่างๆ เป็นต้น ครม.มีการประชุมแล้วกำลังแก้ไขปัญหาเบื้องต้นอีกต่อไป
5.การปรับใช้เงินงบประมาณ ต้องเข้าสภาเพื่อพิจารณามีประกาศได้ประกาศใช้น่าจะปลายเดือนมิถุนายน และ พรก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ยังอยู่ในขั้นเตรียมการ มีแค่ตัวเลขต้องประมาณการไว้ รอประกาศใช้ปลายเมษายนหรือต้นเดือนพฤษาคม ตอนนี้ใช้งบประมาณจากงบกลางของประเทศซึ่งได้ระงับโครงการบางโครงการเพื่อนำงบตรงนั้นมาใช้ก่อน วงเงิน 5 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งจะเอามาใช้ในโครงการเงินเยียวยาโควิด 5,000 บาทของประชาชน ได้แค่ 1 เดือนซึ่งเดือนอื่นๆต้องรอเงินจาก พรก.กู้ยืมเงิน ในส่วนแรงงานประกันสังคม มาตรา 33 ที่มีรายได้ประจำ มี 11 ล้านคน ใช้เงินกองทุนประกันสังคม 230,000 ล้านบาท ไปสู่เจ้าของกิจการที่มีผลกระทบต่อมาตราโควิด-19 ต่างๆ กระทรวงแรงงานรับเรื่องดูแลในขณะนี้ ในมาตรการที่ดูแลค่าใช้จ่ายให้ประชาชนก็จะต้องทำแบบประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนี่อง
6.มาตราการเยียวยาอื่นๆ มอบหมายให้กระทรวงการคลังได้ไปรับฟังความคิดเห็นทุกหน่วยงาน และทุกกระทรวงมาพิจารณาโครงการมาตรการการเยียวยาทั้งให้รายบุคคลและแบบเงินกู้ของนิติบุคคล
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำเตือนว่า ประชาชนทุกท่านโปรดช่วยเหลือกันและโปรดเห็นใจรัฐบาลทุกหน่วยงาน อย่าไปประท้วงหรือเรียกร้องสิทธิ์ ในขณะนี้รัฐได้รับรู้เห็นปัญหาและกำลังดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นขั้นตอน “ผมย้ำทุกอย่างที่ผมทำจะต้องทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ พิธีการต่างๆทุกประการและประชาชนโปรดมั่นใจว่ารัฐไม่มีการทุจริตใดโดยเด็ดขาด”
อ้างอิงข้อมูลจาก: แถลงสถานการณ์นายกรัฐมนตรี(ไทยคู่ฟ้า)