สงขลา-สะเดา เตือนคนไทยเสี่ยงถูกจับกุมคดีลักลอบเข้าประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมาย
วันที่ 21 ก.พ. 66 ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา เปิดช่องทางพิเศษประทับตราหนังสือเดินทางแก่คนไทยจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พ้นโทษจากประเทศมาเลเซีย จำนวน 44 รายที่เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก และเจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียร่วมตรวจสอบความถูกต้องและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ให้กับคนไทยที่พ้นโทษจากประเทศมาเลเซีย ตามนโยบายของพล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้กำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอำนวยความสะดวกให้คนไทยและนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม
ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียว่าทางการมาเลเซียได้ปล่อยตัวคนไทยที่พ้นโทษจากการถูกจับกุมในคดีลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และคดียาเสพติด จึงได้เปิดช่องทางพิเศษเพื่อประทับตราหนังสือเดินทาง พร้อมตรวจสอบความถูกต้องของตัวบุคคลก่อนที่จะให้เดินทางกลับภูมิลำเนาทั้งนี้ขอเน้นย้ำแจ้งเตือนคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมาย รวมทั้งผู้ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งผู้ค้าและผู้เสพ รวมทั้งผู้ครอบครองยาเสพติดขณะพำนักในประเทศมาเลเซีย เนื่องใจทางการมาเลเซียมีความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่ลักลอบเมืองอย่างผิดกฎหมาย
โดยผู้ถูกจับกุมจะถูกดำเนินคดีทั้งจำและปรับ อีกทั้งต้องพึงระวังการหลอกชักชวนเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมายด้วยการจูงใจว่ามีค่าตอบแทนสูง นายจ้างรับผิดชอบและช่วยเหลือหากถูกจับกุม เพราะมีหลายรายที่ถูกลอยแพทันทีเมื่อถูกจับกุม ขณะที่คดียาเสพติดที่มีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต โดยผู้ที่ถูกจับกุมแม้มีการรับโทษทางกฎหมายและพ้นโทษไปแล้ว แต่ต้องติดแบล็กลิสต์ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป จึงขอให้ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียเข้าไปอย่างถูกกฎหมาย โดยต้องขอใบอนุญาตทำงานWork Permit เพื่อให้ได้ค่าตอบแทนตามที่กฎหมายแรงงานในประเทศมาเลเซียกำหนดอีกทั้งยังได้รับสิทธิการคุ้มครองแรงงาน ไม่ต้องหลบซ่อน ไม่ถูกนายจ้างเอาเปรียบ
อ้างอิง : ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา