สงขลา สรรพสามิตเร่งปราบน้ำมันเถื่อนชายแดนไทย-มาเลเซีย รวมจับกุมแล้วทั้งหมด 22 คดี
วันที่ 6 ก.ย. 65 สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา ได้สั่งการให้การตรวจ ติดตาม ตรวจสอบกรณีพบน้ำมันเถื่อนขายเกลื่อนบริเวณเขตชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จ.สงขลา ดยปัญหาน้ำมันเถื่อนถูกแชร์ในโซเซี่ยลและสื่อมีการนำเสนออย่างแพร่หลาย ต่อมาหน่วยงานสรรพสามิตได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่จับกุมได้เพียงรายย่อยบางรายเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่รู้ว่า เจ้าหน้าที่ลงตรวจจึงปิดร้านเพื่อหลบหนีการจับกุม หากเปิดร้านก็ทำทีโดยตั้งน้ำมันขวดบังหน้า พร้อมวางกรวยให้ลูกค้ารู้ว่ามีจำหน่ายน้ำมันชนิดแกลลอน
ปัญหาน้ำมันเถื่อนในแนวชายแดนใต้ เป็นธุรกิจผิดกฎหมายลักลอบทำมายาวนาน ถือเป็นภัยแทรกซ้อนของพื้นที่ชายแดนใต้ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ แต่ละปีมูลค่ามหาศาล แม้มีการจับกุมแต่ปัญหายังเกิดขึ้นต่อเนื่อง นายกฤษภาส ศิริปิตุภูมิ สรรพสามิตพื้นที่สงขลา ได้เปิดเผย ผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนตั้งแต่วันที่ 1 – 31 สิงหาคม 2565 สามารถจับกุมคดีน้ำมันทั้งหมด 22 คดี เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 207,967 บาทของกลาง ประกอบด้วยน้ำมันดีเซล 16,985 ลิตร และ น้ำมันเบนซิน 1,650 ลิตร
วนวันที่ 5 กันยายน 2565 จับกุมคดีน้ำมัน จำนวน 6 คดี เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 41,458.60 บาท ของกลางน้ำมันดีเซล 3,570 ลิตรและน้ำมันเบนซิน 86 ลิตร
ซึ่งการปฏิบัติงานที่ผ่านมา มีการจับกุมและปฏิบัติในพื้นที่แนวตะเข็บชายแดน โดยใช้การบูรณาการร่วมกับ ศุลกากร สรรพสามิต ตำรวจ และทหาร กวดขันเข้มงวดรถยนต์ รถบรรทุกที่เข้าออกแนวชายแดนและการจำหน่ายน้ำมันในลักษณะใส่ขวด ใส่แกลลอนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการวางสายข่าวในพื้นที่ คอยติดตามการข่าว ในลักษณะการกระทำผิดรายใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งได้ชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงการครอบครองน้ำมันที่มิชอบด้วยกฎหมายมีความผิด ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560
อ้างอิง : สรรพสามิตจังหวัดสงขลา