ด่านสะเดายังคงคับคั่ง แรงงานไทยจากมาเลย์แห่เข้าประเทศ
จากข้อมูลของด่านพรมแดนไทยมาเลเซียเมื่อวันที่ 2 เมษายน (วานนี้) ยังคงมีแรงงานไทยที่เข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียเดินทางกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ผ่านมามีจำนวนกว่า 800 ราย และต้องยืนต่อแถวยาวเหยียดบริเวณแนวพรมแดน เนื่องจากต้องผ่านการคัดกรองของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด
มี พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกให้แก่คนไทยที่เดินทางกลับเข้ามา และทุกคนจะต้องปฏิบัติตามมาตรการคัดครองอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการกักตัว 14 วัน ซึ่งได้ย้ำให้แรงงานไทยทุกคนต้องปฏิบัติตาม
พล.ต.เกรียงไกร กล่าวว่า คนไทยจะเดินทางกลับมาจะต้องลงทะเบียนและได้รับอนุญาตจากสถานกงสุลไทยในมาเลเซีย พร้อมกับใบรับรองแพทย์ แต่ไม่ได้มีการกะเกณฑ์ว่าจะมีจำนวนเท่าไหร่ แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็จะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันตามที่อยู่และภูมิลำเนาที่แจ้งไว้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในแต่ละจังหวัดไปเฝ้าติดตามสังเกตอาการ ยกเว้นกรณีที่ป่วยซึ่งจะต้องกักตัวที่ด่านทันที และรีบพาตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียด
ทั้งนี้ นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา พร้อมด้วย นายรัชฏา จิวาลัย กงสุลใหญ่ ประจำรัฐปีนัง ที่เดินทางมาติดตามการช่วยเหลือคนไทย มาคอยอำนวยความสะดวกที่ด่านสะเดา โดยมีครัวอาสาของ ทหาร จากกรมทหารราบที่ 5 (ร.5) มาบริการทำอาหารให้คนไทยรับประทานฟรี และบริการจัดรถตู้ส่งถึงที่หมาย พร้อมหนังสือรับรองจากสาธารณสุขจังหวัดสงขลา และขนส่งทางบก ให้กับคนขับรถในการอำนวยความสะดวก
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนไทยในมาเลเซียที่จะเดินทางกลับประเทศ ล่าสุด ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้ประกาศแจ้งให้คนไทยที่จะเดินทางกลับในช่วงนี้ให้ชะลอการเดินทางกลับไทยออกไปหลังวันที่ 15 เมษายนนี้ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา มีมติให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการชะลอคนต่างชาติ และคนไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน จนถึงวันที่ 15 เมษายน
อ้างอิงข้อมูลจาก : mgronline.com thairath.co.th
ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามรายงานสถานการณ์โควิด-19 ได้ในแบบเรียลไทม์