คึกคัก ชาวไทยมุสลิมใน อ.เบตง จ.ยะลา ร่วมละหมาดในมัสยิดวันฮารีรายอ หลังไม่ได้มีการละหมาดที่มัสยิดกว่า 2 ปี
หลังจากที่เมื่อวานนี้ ทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้กำหนดให้ประชาชนชาวไทยมุสลิมร่วมดูดวงจันทร์หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพื่อกำหนด วันที่ 1 ของเดือนเซาวาล (เซา-วาล) หรือ วันฮารีรายอ อีฎิ้ลฟิตรี (อี-ดิล-ฟิต-ตรี) ฮิจเราะห์ศักราช 1443 ซึ่งปรากฏว่า มีผู้พบเห็นดวงจันทร์ในห่วงเวลาดังกล่าว ทำให้วันฮารีรายอ อีฎิ้ลฟิตรี ก็จะตรงกับวันจันทร์ที่ 2 พ.ค. 65
วันที่ 2 พ.ค. 65 บรรยากาศตามมัสยิดต่าง ๆ ในช่วงเช้า เป็นไปอย่างคึกคัก มีชาวไทยมุสลิม ทั้ง เด็ก ผู้ใหญ่ ชายและหญิง ต่างแต่งกายด้วยเสื้อผ้าตามแบบอย่างอิสลาม เดินทางมาร่วมละหมาดเนื่องในวันฮารีรายออีฎิ้ลฟิตรี กันเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศวันฮารีรายอกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ 2 ปีที่ผ่านมา ที่เกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างหนัก จนทางภาครัฐมีมาตรการห้ามการละหมาดในมัสยิด เพื่อไม่ให้มีการรวมตัวกัน จนส่งผลกระทบต่อการละหมาดฮารีรายอในห่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการละหมาดเนื่องในวันฮารีรายอ อีฎิ้ลฟิตรี จะมีขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น เพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองหลังจากที่มีการถือศีลอดในเดือนรอมฏอนตอลดทั้งเดือนที่ผ่านมา
สำหรับบรรยากาศที่มัสยิดใน อเบตง ซึ่งเป็นมัสยิดที่มีประชาชนเดินทางมาร่วมกันละหมาดเนื่องในวันฮารีรายออย่างเนื่องแน่นทุกปี โดยเฉพาะในปีนี้ มีประชาชนเดินทางมาละหมาดจนล้นออกมาด้านหน้าของมัสยิดกลาง ซึ่งเป็นภาพที่หาได้ยากมาก ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่าประชาชนต่างรอคอยในวันนี้มากว่า 2 ปีแล้ว นอกจากนี้ ทางมัสยิดยังได้ตกแต่งประดับประดาป้ายตัวหนังสือบ่งบอกถึงวันฮารีรายอ อีฎิ้ลฟิตรี อย่างสวยงาม ทำให้ประชาชนที่ร่วมเดินทางมาละหมาดต่างมาร่วมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกในวันสำคัญทางศาสนาอิสลามอีกด้วย
อ้างอิง : สวท.เบตง