คืบหน้าคดีบุกรุกโบราณสถานเมืองเก่าสงขลา ตร.เร่งตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
วันที่ 7 เม.ย. 65 นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นายอำเภอสิงหนคร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกันแถลงความคืบหน้า คดีบุกรุกโบราณสถานเมืองเก่าสงขลา โบราณสถานเขาแดง และโบราณสถานเขาน้อย หลังจากจับกุม นางณัฎฐ์ณรัน จันทร์สว่าง พี่สาวนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.เขต 5 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่าไม่หนักใจในการทำคดีนี้ แม้จะมีผู้กว้างขวางเป็นผู้ต้องหา โดยว่ากันตามพยานหลักฐาน
พล.ต.ต.อาชานกล่าวว่า ทั้ง 3 คดียังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาใช้ในการดำเนินคดี หากพยานหลักฐานสาวไปถึงผู้ใดก็พร้อมจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด โดยจนถึงขณะนี้ทั้ง 3 คดี เชื่อมั่นในพยานหลักฐานว่าจะเพียงพอในการส่งฟ้องคดีอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องการใช้กฎหมาย ปปง.นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการขยายผล
พล.ต.ต.อาชานกล่าวว่า ผู้ต้องหาในคดีที่ 4 คือ นางณัฎฐ์ณรัน หรือเจ๊อ้อย นั้นไม่ให้ปากคำในชั้นพนักงานสอบสวน โดยขอให้ปากคำในชั้นศาล ส่วนการตรวจค้นในบ้านได้ดำเนินการ 2 ครั้งแล้ว พร้อมยึดรถแบ๊กโฮคันที่ใช้ก่อเหตุเมื่อปี 2557 ที่จอดอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว
คดีที่ 1 เป็นคดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย มี น.ส.จันทิมา จันทร์สว่าง อายุ 43 ปี หลานของนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.เขต 5 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้จ้างวาน นายปอน เลิศเฉลิมวงศ์ เป็นผู้รับจ้าง มีของกลางเป็นรถแบ๊กโฮ 1 คัน
คดีที่ 2 การบุกรุกโบราณสถานเขาแดง มี นายสมบัติ เหาตะวนิช อายุ 69 ปี เป็นผู้ว่าจ้าง และนายเทพชัย คงเทพ เป็นผู้รับจ้าง มีของกลางในคดีคือรถแบ๊กโฮ 1 คัน
ส่วนคดีที่ 3 มีผู้ต้องหา 1 ราย คือ นางณัฎฐ์ณรัน จันทร์สว่าง อายุ 62 ปี พี่สาวนายเดชอิศม์ มีของกลางเป็นรถแบ๊กโฮ 1 คัน โดยทั้ง 5 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันบุกรุกโบราณสถาน หรือทำให้เสียหาย
ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมอย่างไรทางทีมข่าวหาดใหญ่ทูเดย์นิวส์จะรายงานให้ทราบต่อไป
อ้างอิง : ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา , ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา