วันที่ 3 ก.พ. 65 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ครม. มีมติรับทราบและอนุมัติโครงการมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ตามที่กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเสนอ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้แก่กลุ่มที่มีความเปราะบางทางด้านรายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สิน ผู้ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อรักษาแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในสถานการณ์ที่ราคาสินค้าสูงขึ้น ดังต่อไปนี้
ประชาชนแต่ละคนจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้เพียง 1 โครงการ รายละเอียด ดังนี้
1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฟส 4
- ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
- วงเงินรวม 8,071 ล้านบาท ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จำนวนไม่เกิน 13.45 ล้านคน โดยจะใช้ฐานข้อมูล ณ วันที่ 25 มกราคม 2565
2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เฟส 2
- ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าฯ และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
- วงเงินรวม 1,352 ล้านบาท ให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือตามโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น
- ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต
- ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตัง ได้
- ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนหรือเดินทางไปใช้จ่ายวงเงินที่ได้รับผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้)
- ผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง เป็นต้น
- เป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิตามโครงการเราชนะ กลุ่ม 4 จำนวนไม่เกิน 2.25 ล้านคน
3. โครงการคนละครึ่งเฟส 4
สนับสนุนวงเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และบริการนวดสปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ จากภาครัฐในอัตราร้อยละ 50 โดยไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่เดือน ก.พ. – 30 เม.ย. 65 ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจำนวนไม่เกิน 29 ล้านคน
- ประชาชนผู้ได้รับสิทธิคนละครึ่งเฟส 3 (คนเดิม) จะต้องยืนยันสิทธิคนละครึ่งเฟส 4 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 65 เป็นต้นไป
- ประชาชนทั่วไปที่ยังไม่ได้เข้าร่วมคนละครึ่งเฟส 3 สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ได้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 65 จนกว่าจะครบจำนวนประมาณ 1 ล้านสิทธิ เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. – 30 เม.ย. 65
4. โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4
รัฐบาลสนับสนุนสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ต่อห้อง ต่อคืน จำกัดคนละไม่เกิน 10 สิทธิ รวม 2 ล้านสิทธิตลอดโครงการ นอกจากนี้ ยังได้รับคูปองส่วนลดอาหาร-ท่องเที่ยว 40% สูงสุด 600 บาทต่อวัน และค่าตั๋วเครื่องบิน 40% สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 ผู้โดยสาร รวม 1 ล้านสิทธิ สามารถเปิดสำรองห้องพักตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ถึง 23 พ.ค. 2565 เข้าพักตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. ถึง 31 ธ.ค. 2565 คนที่ยังไม่เคยใช้สิทธิ จะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เราเที่ยวด้วยกันก่อน
อ้างอิง : กระทรวงการคลัง