ศบค. ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวทุกจังหวัดเริ่ม 1 ธ.ค. 64 คงพ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อ ย้ำไม่เปิดสถานบันเทิง
วันที่ 30 พ.ย. 64 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงมติปรับโซนสีโควิดล่าสุด หรือการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์นั้นจะไม่มีจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้มหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดแล้ว ทำให้ทุกจังหวัดไม่มีเคอร์ฟิวหรือการห้ามออกนอกเคหสถานตามเวลาที่กำหนดแล้ว
ส่วนการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ท้องที่ทั่วราชอาณานจักร โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดงวดจากเดิมมี 6 จังหวัด ขณะนี้ไม่มีแล้ว, พื้นที่ควบคุมสูงสุดจากเดิมมี 39 จังหวัดเหลือ 23 จังหวัด, พื้นที่ควบคุมยังมี 23 จังหวัดเท่าเดิม, พื้นที่เฝ้าระวังสูงจาก 5 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด และพื้นที่สีฟ้านำร่องการท่องเที่ยว 4 จังหวัด เพิ่มเป็น 7 จังหวัด
โดยพื้นที่สีฟ้า จากเดิมมี 4 จังหวัด คือ ภูเก็ต, สุราษฎร์, พังงา และกระบี่ ปรับเป็น 7 จังหวัด มีเพิ่มจังหวัด กาญจนบุรี, นนทบุรีและปทุมธานี รวมถึงมีการยกเลิกการห้ามออกนอกเขตสถานในพื้นที่สีแดงเข้มไป
ศบค. เห็นชอบให้ขยายเวลาการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ไปอีก 2 เดือน จนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2565 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ย. นี้ นับเป็นการต่ออายุการใช้กฎหมายพิเศษนี้เป็นครั้งที่ 15 นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2563
ส่วนผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่เรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้กิจการเหล่านี้กลับมาเปิดบริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. เป็นต้นไป แต่ ศบค. ยังยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ให้สถานบันเทิงเหล่านี้กลับมาเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป แต่ในระหว่างนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการจัดทำมาตรการป้องกันโรค
อ้างอิง : ศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 (ศบค.)