สาธารณสุขเชิญชาวสงขลา อีก 250,000 คน เข้ารับวัคซีนโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
วันที่ 23 พ.ย. 64 สาธารณสุขสงขลา เปิดเผยข้อมูลของจังหวัดสงขลา พบว่า มีผู้สูงอายุ อีก 40,000 คน และ กลุ่มเสี่ยง อีก 15,000 คน ที่ต้องเข้ารับวัคซีนโควิด19 และพบว่า ยอดรวมทั้งหมด ยังมีอีก 250,000 คน ที่ต้องเข้ารับวัคซีนโควิด-19
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โควิด 19 ขณะนี้มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อยืนยันคงที่ ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักลดลง ผู้เสียชีวิตยังอยู่ในหลักสิบราย โดยจังหวัดที่มีแนวโน้มต้องจับตามองเป็นพิเศษมี 13 จังหวัด แบ่งเป็น
1.ติดเชื้อเฉลี่ยเกิน 100 รายต่อวัน และผลตรวจ ATK มากกว่า 5% มี 5 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี กระบี่ และนครศรีธรรมราช
2.ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยเกิน 100 รายต่อวัน และผลตรวจ ATK พบน้อยกว่า 5% มี 3 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น สระแก้ว และนครราชสีมา และ3.ติดเชื้อเฉลี่ย 50-100 รายต่อวัน มี 5 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี อุบลราชธานี อุดรธานี กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ทั้งนี้ ปัจจัยการติดเชื้อในช่วงนี้ส่วนใหญ่มาจากในชุมชน ครอบครัว กิจกรรมเสี่ยง ได้แก่ งานศพ งานบุญ งานเลี้ยงสังสรรค์ และสถานที่เสี่ยง ได้แก่ ตลาด แคมป์คนงาน โรงงาน เรือนจำ โรงเรียน ซึ่งหลายจังหวัดพบเป็นคลัสเตอร์ ในสถานที่มีแรงงานต่างด้าว
ดังนั้น จึงต้องเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว และจับตาดูแนวโน้มผู้ติดเชื้อหลังงานลอยกระทง จนถึงเดือนธันวาคม เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะจากยุโรปซึ่งพบการติดเชื้อสูงขึ้นนายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมการเปิดประเทศให้ทุกจังหวัดจัดทำแผนปฏิบัติการเน้นกำกับติดตามมาตรการ VUCA คือ
V: Vaccine นำประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 โดยจัดบริการทั้งในและนอกสถานพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จัดลงทะเบียน แรงงานต่างด้าวในชุมชน รวมถึงให้ อสม.ช่วยค้นหาเชิงรุก
U: Universal Prevention ป้องกันตัวเองตลอดเวลา
C : Covid Free Setting สถานที่บริการมีความพร้อม ผู้ให้บริการฉีดวัคซีนครบ
และ A: ATK เฝ้าระวังและตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยง รวมถึงเฝ้าระวังชุมชนหนาแน่น และมีแรงงานต่างด้าวนอกจากนี้ให้ทุกพื้นที่ช่วยสำรวจรวบรวมประเด็น เหตุผลที่คนไม่ยอมฉีดวัคซีน เพื่อนำมาปรับกลยุทธ์ อบรมทีมเชิงรุกในการให้ข้อมูลจูงใจให้เข้ารับวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส
อ้างอิง : สาธารณสุขสงขลา