สรุปสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันที่ 24/03/2563 ช่วงเช้าวันนี้ โฆษกแพทย์นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน และ แพทย์หญิงวลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ กรมระบาดวิทยา ณ ขณะนี้ มีผู่ป่วยเสียชีวตเพิ่มสามราย ซึ่งล้วนเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน มีรายงานว่ามีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว57 ราย สาเหตุการเสียชีวิต มาจาก 7 รายที่อยู่ในภาวะหนักอยู่แล้ว ผู้เสียชีวิต นายแพทย์ทวีศิลป์ ได้ชี้แจงอีกว่า “ศพจากการเสียชีวติสามารถเผาได้ตามปกติโดยไม่ส่งผลกระทบในการแพร่เชื้อ แต่หากเป็นผู้ที่ไปเข้าร่วมงานศพ” ต่างหากที่ต้องระมัดระวัง ทิ้งระยะสร้าง Social Distance ชายที่เป็นเซียนมวยที่เสียชีวิต ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็น Super Spreader หรือไม่
แพทย์หญิงวลัยรัตน์ ยังได้เสนอการคาดการณ์แนวโน้ม นั้นคือการทำ Social Distancing ที่จะช่วยลดการกระจาย หากทำได้ราว 80 % จะทำให้ไทยมีผู้ป่วยน้อยลง กว่าครึ่งในช่วงกลางไตรมาศที่สอง เพราะทุกวินาทีมีคนติดต่อเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ สิ้นเมษาสถานการณ์อาจรุนแรงขึ้นอีกหากประชาชน ยังเลือกที่จะไม่เลือกปฏิบัติตามวิธีของ Social Distance
ในด้านการสื่อสารความเสี่ยงกับประชาชน
● โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ป้องกันได้โดยใช้หลักการป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจ ได้แก่ ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ
● หลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศจีน และประเทศที่มีรายงานการแพร่เชื้อในท้องที่ (Local transmission)ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิด
ผู้ป่วยไอจาม หากเลี่ยงไม่ได้ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย
● ภายใน 14 วัน หลังเดินทางกลับจากประเทศที่มีการรายงานการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในประเทศได้แก่ จีน (รวมฮ่องกงและมาเก๊า) เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน ออสเตรีย เบลเยียม มาเลเซีย แคนาดาโปรตุเกส บราซิล เช็กเกีย อิสราเอล ออสเตรเลีย เกาะไอร์แลนด์ ปากีสถาน ฟินแลนด์ ตุรกี กรีซ ชิลี ลักเซมเบิร์ก โปแลนด์ เอกวาดอร์ ฝรั่งเศส สเปน อเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์สวีเดน อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น หากมีไข้ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจ หากมรอาการ เหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันทีพร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางไปในเมืองของประเทศดังกล่าวข้างต้นร่วมด้วย โดยดูรายละเอียดได้จากhttps://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php
● หลีกเลี่ยงการไปตลาดที่ขายซากสัตว์ป่าหรือที่มีชีวิตและการสัมผัสโดยไม่ใช้ถุงมือ
● หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปากโดยไม่จำเป็น
● ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสาร คัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
● รับประทานอาหารปรุงสุกร้อน
ทั้งนี้สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 192 ปรเทศ กว่า 300,000 ราย ชายต่อหญิงเป็น 2 : 1 ส่วนในไทยช่วงอายุ 30-39 รองลงมา 20-29 จังหวัดที่มีผู้ติดเขื้อมากที่สุดคือจังหวัด กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้สามารถติดตามข้อมมูลได้ที่แฟนเพจ ไทยรู้สู้โควิด
*** ล่าสุด เมื่อเวลา 13.55 น. ที่ผ่านมา ณ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเร้นซ์ ว่า ที่ประชุมครม.มีมติให้ประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจะประกาศใช้วันที่ 26 มี.ค. เป็นระยะเวลา 1 เดือน เมื่อประกาศแล้วจะจัดตั้งคณะกรรมการที่รับผิดชอบต่อไป
แหล่งที่มา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข