จังหวัดสงขลาประกาศมาตรการป้องกันโรคโควิด -19 ในการปฏิบัติศาสนกิจวันสารทเดือนสิบ
วันที่ 19 ก.ย. 64 จังหวัดสงขลาประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในการปฏิบัติศาสนกิจวันสารทเดือนสิบ
ในวันที่ 22 ก.ย. 64 และวันที่ 6 ต.ค. 64 เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนในภาคใต้จะได้ร่วมกันปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดหรือสำนักสงฆ์ในพื้นที่เพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ เนื่องในวันสารทเดือนสิบ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ยังคงพบผู้ป่วยยืนยันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติศาสนกิจวันสารทเดือนสิบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา จึงออกประกาศ มาตรการในการจัดกิจกรรมดังกล่าว
โดยข้อปฏิบัติสำหรับวัด สำนักสงฆ์ ให้คณะกรรมการวัด/สำนักสงฆ์ หรือหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนก่อนเข้าวัด/สำนักสงฆ์ และให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนลงทะเบียนก่อนเข้าวัด/สำนักสงฆ์ ให้จัดวางเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไว้บริเวณประตูทางเข้าวัด/สำนักสงฆ์ ให้ทำความสะอาดพื้นผิวในสถานที่ปฏิบัติศาสนากิจก่อนและหลังการทำพิธีและไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ โดยให้เปิดหน้าต่าง ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ให้จัดทำเครื่องหมายจุดนั่งประกอบพิธีทางศาสนาหรือนั่งพัก โดยให้เว้นระยะห่าง ระหว่างแต่ละจุด 2 เมตร โดยคำนวณพื้นที่ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตร : 1 คน ให้คัดกรองบุคคล โดยห้ามบุคคลที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม ให้จัดเฉพาะพิธีการทางศาสนาเท่านั้น ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มอื่น ๆ
ส่วนข้อปฏิบัติสำหรับผู้เข้าร่วมปฏิบัติศาสนกิจนั้น ให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่วัด/สำนักสงฆ์จัดเตรียมไว้ ให้สวมหน้ากากอนามัยให้ปิดทั้งปากและจมูกตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจ งดการรวมกลุ่มพูดคุย หรือรวมกลุ่มการทำกิจกรรมที่มีการรวมตัวอย่างใกล้ชิด เป็นจำนวนมาก เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ให้งดการไปร่วมปฏิบัติศาสนากิจที่วัด/สำนักสงฆ์ หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก แม้จะมีอาการไม่มาก ให้งดการไปร่วมปฏิบัติศาสนากิจที่วัด/สำนักสงฆ์
สำหรับการปฏิบัติศาสนกิจ ให้เว้นระยะห่างระหว่างแถว และในแถว 2 เมตร โดยคำนวณพื้นที่ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตร : 1 คน หรือตามจุดที่วัด/สำนักสงฆ์ ได้จัดทำเครื่องหมายระบุไว้ และเมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติศาสนกิจให้งดการนั่งรับประทานอาหารร่วมกันและเดินทางกลับภูมิลำเนาทันที เพื่อเป็นการรักษาประเพณีและวัฒนธรรมการทำบุญวันสารทเดือนสิบ ให้สามารถตั้งศาลาวางหมุรับ และอาหารคาวหวานได้ (ศาลารับ-ส่งตายาย) แต่ห้ามมีกิจกรรมชิงหมฺรับ และอาหารคาวหวาน หลังจากเสร็จพิธี (ห้ามกิจกรรมชิงเปรต) ประกาศ ณ วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2564
อ้างอิง : ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา