จังหวัดสงขลา หาทางรอดสร้างหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งฝ่าวิกฤติโควิด-19
วันที่ 14 ก.ย. 64 นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยในการแถลงข่าว “ทางรอด สงขลา ฝ่าวิกฤติโควิด – 19” ประจำวันจันทร์ที่ 13 กันยายน 2564 ว่า จังหวัดสงขลาโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบหมายให้ปลัดจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด ร่วมกับทุกอำเภอ เทศบาลเมือง เทศบาลนคร ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ดำเนินการสร้างหมู่บ้านเข้มแข็งและชุมชนเข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคโควิด -19 อย่างเข้มข้น ควบคู่ไปกับการดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เช่น การแจกจ่ายถุงยังชีพ หรืออาหารกล่อง
ขณะเดียวกันจังหวัดสงขลามีแนวโน้มที่จะได้รับการจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มขึ้น ส่วนวัคซีนทางเลือกทั้งจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาและเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่ได้ใช้งบประมาณภาคท้องถิ่นในการจัดหาวัคซีนให้กับประชาชนมีทิศทางและแนวโน้มที่จะเป็นไปตามเป้า สำหรับแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในจังหวัดสงขลา คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลามีมติให้ยืดตามมาตรการล่าสุดของ ศบค. แต่ขยายระยะเวลาเพิ่มจากเดิมไปอีก 14 วัน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 เช่น การห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่ 21.00 น. จนถึงเวลา 04.00 น. สามารถรับประทานอาหารที่ร้านได้ กรณีเป็นห้องปรับอากาศให้นั่งได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของพื้นที่ กรณีเป็นพื้นที่โล่งนั่ง ได้ไม่เกินร้อยละ 75 ของพื้นที่ เป็นต้น
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดสงขลาวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 301 ราย พบมากสุดในอำเภอหาดใหญ่ อำเภอเมือง และอำเภอสะเดาตามลำดับ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 4,234 ราย รักษาหายกลับบ้านวันนี้ 159 ราย รับคนสงขลากลับบ้านรวม 138 ราย ซึ่งโดยส่วนใหญ่สายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดในจังหวัดสงขลา ได้แก่ สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายและรวดเร็ว ประกอบกับมีการค้นหาเชิงรุก ทำให้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดสงขลามีตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้น
อ้างอิง : สวท.สงขลา
Tue Sep 14 , 2021
สงขลา สรรพสามิตร่วมกับศุลกากร จับกุมบุหรี่เถื่อนล๊อตใหญ่ 32,000 ซอง มูลค่า 60 ล้านบาท วันที่ 14 ก.ย. 64 เจ้าหน้าที่ 5 หน่วย ทั้งสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปรามกรมสรรพสามิต สำนักส่วนตรวจสอบป้องกันและปราบปรามสำนักงานสรรพสามิตภาคที่9 ฝ่ายปราบปรามสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา หน่วยสืบสวนปราบปรามกองสืบสวนและปราบปรามกรมศุลกากรและตำรวจน้ำกองกำกับการ 7 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต นายวิวัฒน์ เขาสกุล รักษาการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์กรมสรรพสามิต นายจรูญ ราชกิจจา ผอ.สำนักงานสรรพสามิตภาคที่9 และนายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ สรรพสามิตพื้นที่สงขลา ร่วมกันกวาดล้างและจับกุมบุหรี่เถื่อนต่างประเทศหนีภาษี3ยี่ห้อ จำนวน 64 ลัง รวม 32,000 ซอง มูลค่า 60 ล้านบาท (เปรียบเทียบปรับตามพรบ.ภาษีสรรพสามิตปี 2560) และเป็นล๊อตใหญ่อีกล๊อตหนึ่งที่จับกุมได้ในรอบปีนี้ ขณะลำเลียงเข้ามาทางทะเลริมชายฝั่งทะเล พื้นที่ ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา แต่ขณะเข้าจับกุมผู้กระทำผิดที่กำลังขนบุหรี่ได้อาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ จากการสืบสวนในทางลับ ในส่วนของบุหรี่เถื่อนที่ลำเลียงเข้ามาทางทะเลคาดว่าน่าจะมีปลายทางส่งไปยังพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้และในพื้นที่อ.หาดใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลหาเบาะแสกลุ่มที่ลักลอบนำเข้ามาและจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้านนายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ สรรพสามิตพื้นที่จ.สงขลา เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนหาข่าวเพื่อกวาดล้างบุหรี่เถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่และทราบว่าล๊อตนี้จะมีการลำเลียงเข้ามาทางทะเลขึ้นฝั่งบริเวณพื้นที่ต.นาทับ อ.จะนะ จึงได้วางแผนเข้าจับกุมได้พร้อมกับส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบตามร้านขายบุหรี่ในเมืองใหญ่ๆเช่นอ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ปลายทางหากพบว่าร้านใดที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่เถื่อนก็จะจับกุมดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุด ตามนโยบายของอธิบดีกรมสรรพสามิตเพื่อไม่ให้กระทบกับตลาดบุหรี่ภายในประเทศรวมถึงอันตรายของบุหรี่เถื่อนที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชน อ้างอิง : สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปรามกรมสรรพสามิต Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine