สงขลา ประกาศมาตรการในการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ที่มัสยิด ย้ำผู้นำศาสนาต้องฉีดวัคซีน
วันที่ 8 ก.ย. 64 จุฬาราชมนตรีได้มีประกาศจุฬาราชมาตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่าด้วยการละหมาดวันศุกร์(ญุมอะห์) ที่มัสยิด กำหนดโดยจังหวัดสงขลา อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด เห็นควรผ่อนปรนในการประกอบศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ที่มัสยิด โดยให้ปฎิบัติตามแนวทางการปฎิบัติศาสนกิจตามประกาศจุฬาราชมนตรีและมาตรการเพิ่มเติมที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาได้ออกประกาศอย่างเคร่งครัด
1.คนในชุมชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่า 70 % หรือเป็นพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตจากคณะ กอจ. ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัด
2.ผู้มาปฏิบัติศาสนกิจ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- ฉีดวัคซีน Sinovac , Sinopharm , Pfizer หรือแบบไขว้ ครบ 2 เข็มเกิน 14 วัน และ AstraZeneca 1 เข็มเกิน 14 วัน
- มีผลตรวจ มีเอกสารผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ RT-PCR หรือ Antige Test Ktk ** เป็นการตรวจ ATK ซึ่งระบุชื่อ ผู้ถูกตรวจโดยคลีนิคหรือ รพ.โดยผลไม่เกิน 72 ชม.
- มีเอกสารยืนยันอื่นๆ มีเอกสารรับรองว่า เป็นผู้เคยติดเชื้อมาไม่เกิน 90 วัน และเอกสารรับรองว่า กักตัวมาแล้ว 14 วัน ก่อนเดินทาง ไม่เกิน 72 ชม.
3.กระชับเวลา ละหมาดญะมาอะห์ไม่เกิน 30 นาที , ละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ไม่เกิน 45 นาที (เริ่มตั้งแต่อะซาน-ละหมาดเสร็จ)
4.ทำความสะอาดมัสยิด
- ทำความสะอาดมัสยิด ก่อนและหลังละหมาด
- ไม่เปิดแอร์ โดยให้เปิดหน้าต่าง/ผ้าม่านเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก
อ้างอิง : ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา