โรงแรมด่านสะเดา จ.สงขลา พร้อมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้ว
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วน โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้แถลงเป้าหมายเปิดทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน หากเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ พร้อมก็จะทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น โดยนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสควรเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว รวมทั้งคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ควรเดินทางกลับเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเช่นกัน รวมทั้งสถานที่ทำงาน และธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ ต้องกลับมาเปิดทำการได้ การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ควรไม่มีข้อห้าม หรือข้อบังคับแบบเหมารวมทั้งจังหวัด
วันที่ 24 มิ.ย. 64 นางอารมย์ ลิ่ววัฒนะโชตินันท์ เจ้าของโรงแรมพีพี ด่านนอก ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า รายได้หลักของครอบครัวมาจากการทำธุรกิจโรงแรม ซึ่งเปิดให้บริการมากว่า 20 ปี โดยลูกค้าส่วนใหญ่ คือชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย มียอดการจองห้องพักเฉลี่ยวันละ 50 ห้อง สร้างรายได้หลักหมื่นต่อวัน แต่หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีความรุนแรงมากขึ้น จนมีการออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวผ่านด่านศุลกากรสะเดา ทำให้ไม่มีลูกค้า จึงต้องปิดทำการชั่วคราวมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ส่วนรายได้รองที่มาจากการปล่อยให้เช่าพื้นที่ เพื่อเปิดร้านขายสินค้าบริเวณชั้น 1 ของโรงแรมก็หายไปด้วย เนื่องจากผู้เช่าไม่มีรายได้ จำเป็นต้องทิ้งร้าน หรือปิดกิจการด้วยเช่นกัน
การเปิดประเทศจึงเป็นความหวังของทั้งตนและผู้ประกอบการรายอื่นในพื้นที่ แต่ก็ยอมรับว่ายังมีความกังวล เพราะด่านสะเดาเป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นจุดเสี่ยง อีกทั้งตนและลูกๆ ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มีเพียงสามีเท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว เนื่องจากอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จึงอยากให้ภาครัฐจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ประกอบการและประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชายแดนได้ฉีดให้ครบเสียก่อน แล้วจึงค่อยเปิดประเทศ ซึ่งในขณะนี้ตนยังไม่มีแผนสำหรับการเปิดโรงแรมอีกครั้ง เนื่องจากปิดมาเป็นเวลานาน หากเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อ และจัดสรรวัคซีนไว้สำหรับพนักงานที่มาจากต่างพื้นที่ด้วย
อ้างอิง : สวท.สงขลา