สงขลาประกาศล็อคดาวน์ชุมชนเก้าเส้ง หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 64 ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมประชุมขับเคลื่อนคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา เพื่อติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตามที่จังหวัดสงขลายังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายวันสูงขึ้นนั้น ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ในพื้นที่จำกัด ได้แก่ “การติดเชื้อในชุมชนแออัด และในโรงงาน” โดยจังหวัดสงขลาได้กำหนด และดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไว้ ดังนี้
1. การประกาศให้พื้นที่ชุมชนที่พบการแพร่ระบาดเป็นพื้นที่ควบคุมการเดินทางเข้าออกและให้คนในชุมชนนั้นกักกันตนเอง ณ บ้านพัก พร้อมกับการตรวจเชิงรุกทุก หลังคาเรือนเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อ
2. สั่งปิดโรงงานที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และดำเนินการกักกันตัวพนักงาน/แรงงานเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน เพื่อสังเกตอาการ และดำเนินการตรวจหาเชื้อเชิงรุกเพื่อคัดแยกผู้ป่วยออกจากผู้ต้องกักกันตัว
3. ดำเนินมาตรการ Factory Quarantine ในโรงงานที่พบการติดเชื้อ โดยจะต้องมีการปิดฝ่าย/แผนก ที่พบการติดเชื้อและดำเนินการกักตัวพนักงานที่มีความเสี่ยงทุกรายไว้ณ สถานที่กักกันตัว และดำเนินการตรวจเชิงรุกภายในโรงงาน
4. ดำเนินการจัดตั้ง Local Quarantine ในทุกพื้นที่เพื่อเตรียมการรองรับการกักกันตัวกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงมาแยกกักกันตนเองอย่างเป็นเอกเทศ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อในครอบครัว
5. กำหนดมาตรการสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงซึ่งได้รับการ SWAP ตรวจหาเชื้อ ต้องอยู่ภายใต้มาตรการ Home Quarantine เป็นระยะเวลา 14 วัน และสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำซึ่งได้รับการ SWAP จะต้องกักกันตนเอง ณ ที่พักจนกว่าจะทราบผล หากมีการฝ่าฝืนเดินทางออกจากสถานที่กักตัว จังหวัดจะมีมาตรการในการดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนมาตรการต่อไป
นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ และแนวทางการจัดการโรคโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานของจังหวัดสงขลา ที่ยังมีการตรวจพบผู้ต้องขังติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรือนจำจังหวัดสงขลา มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 640 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 1 ราย และ ผู้ต้องขัง 639 ราย ซึ่งเข้ารับการรักษาจนหายแล้ว 233 ราย และยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสงขลา 3 ราย โรงพยาบาลสนามในเรือนจำจังหวัดสงขลา 396 ราย และมีผู้ต้องขังที่รักษาหายและได้รับการปล่อยตัว รวม 7 ราย
สำหรับเรือนจำและทัณฑสถาน ทั้ง 5 แห่งของจังหวัดสงขลา ได้ดำเนินมาตรการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น และแยกผู้ติดเชื้อให้อยู่ในพื้นที่ควบคุมเฉพาะ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อเข้าสู่เรือนจำ ภายใต้การดำเนินการตามกรอบนโยบายหลักในการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด คือ การระวังอย่าให้เชื้อเข้าสู่เรือนจำ การรักษาผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็วและทั่วถึงเพื่อไม่ให้มีการเสียชีวิต และการตรวจเชื้อและปฏิบัติตามมาตรการเข้มงวดอย่าให้มีการนำเชื้อออกสู่ภายนอก
อ้างอิง : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา