เริ่มกลับมาตั้งด่านตรวจ ยึดหลักมาตรฐานเดียวกัน คือโปร่งใส เป็นมาตรฐาน และตรวจสอบได้ โดยนำเทคโนโลยีมาใช้
วันที่ 1 เม.ย. 64 พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภายหลัง พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกคำสั่งให้ทุกพื้นที่รับทราบมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้กลับมาตั้งด่านได้ ตามมาตรฐานที่กำหนด คือ มีความโปร่งใส เป็นมาตรฐาน ตรวจสอบได้ โดยการใช้เทคโนโลยี ซึ่งได้มีการทำฐานข้อมูลTraffic Police Checkpoint Control หรือ TPCC เพื่อกำหนดจุดตั้งด่าน ลงรายชื่อผู้ปฏิบัติในด่านต่าง ๆ ลงในแผนที่ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสามารถตรวจสอบได้ว่า มีการตั้งจุดตรวจอยู่ในจุดใดบ้าง มีการซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับการหรือไม่
การตั้งด่าน ต้องมีเหตุผลในการตั้ง เช่น เป็นบริเวณที่มีอาชญากรรมสูง มีเด็กแว้น เป็นทางผ่านขนยาเสพติดเป็นจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อย หรือมีสถานบริการอยู่จำนวนมาก เพื่อป้องปรามผู้ที่เมาแล้วขับ ฯลฯ ยกเว้นกรณีเดียวที่ไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับการในกรณีฉุกเฉิน คือ การสกัดจับคนร้าย ซึ่งพบว่า สถานีตำรวจหลายแห่งในหัวเมืองใหญ่ เช่น อุบลราชธานี นครราชสีมา มีความพร้อมในการตั้งด่าน หากทุกแห่งมีความพร้อม ให้เริ่มตั้งด่านจริงจังได้ทันทีตั้งแต่วันนี้ (1 เม.ย. 64) เป็นต้นไป
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การให้กลับมาตั้งด่านตรวจของตำรวจ เนื่องจากคณะทำงานพิจารณาถึงผลดีผลเสียแล้วเห็นว่า การไม่มีด่านเลย จะมีข้อเสียเรื่องการบังคับใช้กฎหมายในด้านต่าง ๆ โดยมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเมาแล้วขับ การขับรถจักรยานยนต์ในเลนห้ามวิ่ง เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนอื่น พบการไม่สวมหมวกนิรภัยเพิ่มมากขึ้น ปัญหายาเสพติด รวมถึง การหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว ยืนยันมาตรการตั้งด่านครั้งนี้ สามารถป้องกันการทุจริตได้พอสมควร เนื่องจาก ก่อนตั้งด่านต้องขออนุญาต หากเกิดการทุจริตผู้บังคับบัญชาที่อนุญาตให้ตั้งจุดตรวจต้องรับผิดชอบในส่วนที่กำกับดูแลไม่ดีพอ
อ้างอิง : ตำรวจภูธรเมืองสงขลา