พันเอกสุชาติ ผู้สมัครอบจ.สงขลาหมายเลข 2 แจงศึกอบจ.ยังไม่จบทุกอย่างต้องกระจ่าง
หลังจากที่เป็นที่ถกเถียงและเป็นกระแสกันในสังคมและพื้นที่สงขลา ในเรื่องของพันเอกสุชาติ ผู้สมัครอบจ.สงขลาหมายเลข 2 กับนายไพเจน ผู้สมัครอบจ.สงขลาหมายเลข 3 ที่มีการฟ้องร้องต่อกกต. ในเรื่่องของความเป็นธรรมที่ทางพันเอกสุชาติดำเนินการจนมาถึงเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 64 ทางพันเอกสุชาติ ได้โพสต์ข้อความในเพจโดยระบุว่า
ศึกอบจ.สข.ยังไม่จบ
วันนี้ พอ.สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้สมัคร อบจ.หมายเลข 2 ซึ่งมีคะแนนกว่า 200,000 เป็นอันดับ 2 รองจากนายไพเจน
พันเอกสุชาติ ได้เข้าร้องต่อ กกต.สข.ว่า ไพเจน ร่วมกับ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ได้หาเสียงและโฆษณา โดยหลอกลวงให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดว่า เมื่อนายไพเจน เป็นนายก พล.ต.ท.สาคร จะมาเป็นที่ปรึกษา มีความผิดตามพ.ร.บการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น ปี 2562 มาตรา65(5)
นายไพเจน ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา ได้ ขึ้นป้ายคณะบริหาร ซึ่งมี พล.ต.ท. สาคร ทองมุณี เป็นประธานที่ปรึกษาเพราะพลตำรวจโทสาคร ทองมุณี มีการเดินหาเสียงในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ มานานนับปี ย่อมมีคะแนนเสียงในอำเภอหาดใหญ่
ดังนั้นการใส่ชื่อ พล.ต.ท. สาคร ทองมุณี ย่อมมีความมุ่งหวังที่จะได้รับคะแนนเสียงในเขตพื้นที่อำเภอหาดใหญ่และการมีชื่อ สมัครลงในคณะบริหาร พล.ต.ท. สาคร ทองมุณี ย่อมทราบดีอยู่ว่า หากชนะการเลือกตั้ง ต้องบริหารงานมีวาระนานถึง 4 ปี
ดังนั้นการกระทำดังกล่าว จึงอาจเป็นการหลอกลวงประชาชน ให้หลงเชื่อว่า พลตำรวจโทสาคร ทองมุณี จะไปบริหารงาน อบจ.สข.ด้วยจริง จึงเลือกทีมของนายไพเจน และพลตำรวจโทสาคร ทองมุณี ย่อมรู้อยู่ ตั้งแต่ต้นแล้วว่า หลังจากการเลือกตั้ง อบจ.สข. ก็จะต้องมีการเลือกตั้งระดับเทศบาลนคร ติดตามมาตามนโยบายของรัฐบาล ที่ประกาศ ดังนั้นการกระทำของนายไพเจน จึงอาจ เข้าข่ายตามมาตรา 65 วรรค 5 ซึ่งเป็นการหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ และเลือกทีมของนายไพเจน เพราะมีความชื่นชอบในตัวของพลตำรวจโทสาคร ทองมุณี แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องฟังดุลพินิจของ กกต. ที่จะพิจารณาว่าเป็นการหลอกลวงตามมาตรา 65 วรรค 5 หรือไม่ ซึ่งผมได้ทำการร้องเรียนไว้แล้วในวันนี้ เป็นการกล่าวของพันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล
อย่างไรก็ตามเรื่องราวครั้งนี้จะเป็นอย่างไรทางทีมข่าวจะมารายงานให้ทราบอีกครั้งนึง
HATYAITODAYNEWS
อ้างอิง : พันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล