คณะก้าวหน้าสงขลา เปิดตัวทีมผู้สมัครนายกเทศมนตรี เทศบาลนครหาดใหญ่
วันที่ 31 ม.ค. 64 เวลา 13.00 น. ที่ห้องนามนิพัทธ์ โรงแรมเอเชี่ยน คณะก้าวหน้า สงขลา จัดแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และประกาศความพร้อมในการลงสนามเลือกตั้งเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม นี้ โดยมีสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ชูสโลแกน ร่วมสู้ ร่วมสร้าง ร่วมฝัน โดยจะเป็นการผลึกกำลังของคนที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ที่มีพลังความคิดสร้างสรรค์ ร่วมกับเปลี่ยนแปลงให้เมืองหาดใหญ่กลับมาเป็นเมืองโอกาส เมืองศูนย์กลางของภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง
นายประยูร วงศ์ปรีชากร ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าวว่า ปีนี้ตนเองอายุ 73 ปี เกษียณและปล่อยวางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาระยะหนึ่ง ก่อนที่จะได้มาฉุกคิดว่า สติปัญญาเรายังดี สุขภาพยังดี ความรู้ความสามารถประสบการณ์มากมาย จะปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เลือนหายไปไปพร้อมกับการแก่แล้วแก่เลยอย่างนั้นเหรอ และเมื่อได้เห็นคนหนุ่มคนสาวตื่นตัวทางการเมือง กล้าออกมาแสดงความคิดเห็น ก็รู้สึกประทับใจ จนทำให้ตัดสินใจมาลุยการเมืองท้องถิ่นในครั้งนี้ ตนพร้อมเดินไปกับชาวหาดใหญ่ทุกคน เพื่อนำสิ่งที่ดี ที่ยั่งยืน ที่มีอนาคตให้กับลูกหลานของเรา คืนสิ่งเหล่านี้มาบ้านเกิดหาดใหญ่ของเรา
นายสมบูรณ์ กล่าว เพราะวันนี้เรากำลังเผชิญกับวิฤตการณ์ความเสียหายที่งกระทบทั้ง เศรษฐกิจ การเมือง และสังคม กำลังก่อเกิดสิ่งที่เรียกว่าอาการ 3 ประการ ได้แก่
1. อาการหนี้สิน ปัจจุบันเรามีหนี้สินเพิ่มทุกวันจะโดยรู้หรือไม่รู้ตัวก็ตาม เป็นหนี้ทั้งระดับชาติ ครัวเรือน และส่วนตัว
2. อาการตกงาน พ่อค้าแม่ขายไม่มีรายได้ ไม่พอจ่ายค่าที่ ถูกไล่ที่ โรงแรมที่พักไม่มีลูกค้า ฯลฯ
3.อาการคนรุ่นใหม่ไม่กลับบ้าน เราส่งลูกหลานส่งร่ำเรียน แต่ไม่มีใครกลับมาขยายหรือสืบสานธุรกิจของบรรพบุรุษ เพราะกลับมาแล้วไม่มีอนาคต ไม่รู้จักปักหลักปักฐานครอบครัวตัวเองให้มั่นคงได้อย่างไร เมืองกำลังจะสูญพันธุ์ ซึ่งจะเหลือแต่คนแก่และคนติดยาเสพติด นี่คือสภาพการณ์ที่เลวร้าย ถ้าเราไม่คิดอ่านทำอะไรสักอย่าง
นายประยูร เผยว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นกับเมืองนี้ เราคงต้องมาร่วมกันคิด ร่วมกันสร้าง ร่วมกันฝันว่าเราจะทำอย่างไรดี ที่จะเรียกคืนความเชื่อมั่น เมืองแห่งโอกาส เมืองแห่งประสบการณ์ เมืองอัจฉริยะ เมืองศูนย์กลางการค้า เมืองชุมทางที่คนอยากมาลงหลักปักฐาน เรียกคืนบรรยากาศอย่างนั้นกลับมาให้ได้ ซึ่งมีทางเดียวคือ พวกเราต้องลงมือช่วยกัน บ้านเมืองนี้ให้มีทิศทางชัดเจนในการพัฒนามานาน ที่ผ่านมาผู้นำท้องถิ่นไม่ได้กำหนดทิศทาง วิสัยทัศน์ เป้าหมายหรือนโยบาย ดังนั้น เราจะสร้างการเมืองใหม่ เราจะชูนโยบาย เราจะมีนโยบายเด็ดๆ ที่จะทำให้เมืองนี้มีทิศทางที่ชัดเจนยั่งยืน ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องเลิกกลัวการเมือง เพราะการเมืองคือเรื่องดี คือเรื่องการสร้างสรรค์ เราจะปล่อยอย่างนี้ไม่ได้ ต้องเปลี่ยน พลิกโฉมการเมือง เอาน้ำดีเข้าไป แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เรื่องการเมืองคิดต่างกันได้ แต่ไม่แตกแยก
ด้านนายสมบูรณ์ พงศ์เลิศนภากร ที่ปรึกษาและหัวหน้าทีมบริหารเศรษฐกิจ กล่าวว่า ภัยโควิดที่เราเผชิญอยู่แสนสาหัส หาดใหญ่เองก็โดนหนัก เพราะเศรษฐกิจเราพึ่งท่องเที่ยว การส่งออก และเรายังเป็นศูนย์กลางค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ที่ผ่านมาเคยรองรับนักท่องเที่ยวปีละ 5-6 ล้านคน มีรายได้ 5-6 หมื่นล้านบาทต่อปี กระจายไปทั่วทุกภาคธุรกิจ หากแต่วันนี้ แสนสาหัส หลายกิจการเริ่มปิดตัว ล้มหายตายจาก จึงต้องคิดกันว่าจะทำอย่างไร จะกอบกู้เศรษฐกิจหาดใหญ่ภายใต้ภาวะแบบนี้อย่างไร ซึ่งตนได้รับมอบหมายภารกิจนี้จากคุณประยูร และด้วยประสบการทำงานตั้งแต่อายุ 22 ปี มีโรงแรมเป็นของตัวเองตอนอายุ 26 ปี เชื่อว่าสามารถทำได้ โดยเริ่มต้น เทศบาลนครหาดใหญ่ต้องจัดงบประมาณ ปีละ 200 ล้านบาทเป็นเวลา 2 ปี เพื่อใช้ในการสร้างงานให้กับประชาชนหาดใหญ่ เพราะตอนนี้จะมีคนหาดใหญ่ตกงานเป็นหมื่นคน เทศบาลจะต้องยื่นมือเข้าช่วย 2 ปีงบประมาณต่อเนื่อง เชื่อว่าสร้างงานให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนตั้งหลักได้
นอกจากนั้น ต้องจัดงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนสนับสนุน ให้ประชาชนสามารถเสนอกิจกรรมความคิดที่จะมาพัฒนาสังคมหาดใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นด้าน ประเพณีวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว และนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเทศบาลใช้วิธีสมัครผ่านออนไลน์ แอพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งตรงนี้เราเชื่อว่าคนหนุ่มสาวเรามีความสามารถ แต่พวกเขาเพียงแต่ไม่มีโอกาส ไม่มีพื้นที่ เราจะได้นำเอาความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขานี้มาพัฒนาเมืองหาดใหญ่
ขณะที่นายกตัญญู จิตตะกาญจน์ ตัวแทนคณะก้าวหน้า จ.สงขลา กล่าวว่า คณะก้าวหน้าสืบเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่ เรามีนโยบายสำคัญคือ ยุติรัฐราชการรวมศูนย์กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพาะปัจจุบันโครงสร้างทับซ้อนระหว่างราชการส่วนภูมิภาคกับท้องถิ่นนั้นทำให้เกิดปัญหา คือ คนกำหนดงบประมาณนั้นอยู่ส่วนกลาง แต่คนรู้ปัญหาคือท้องถิ่น ดังนั้น ด้วยเป้าหมายของนโยบายนี้ เราจึงตั้งใจที่จะส่งผู้สมัครลงสนามเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทีมงานคณะก้าวหน้าจังหวัดสงขลา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ได้ไปในพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อรับฟังปัญหาประชาชน รวมถึงเฟ้นหาตัวผู้สมัคร และเมื่อมีการประกาศเปิดรับผู้สนใจต้องการเปลี่ยนแปลงหาดใหญ่ให้ดีขึ้น โดยบุคคลนั้นต้องเชื่อในคุณค่าอนาคตใหม่เดิม คือ จุดยืนหนักแน่นประชาธิปไตย ไม่ใช้เงินซื้อเสียง ไม่เป็นผู้มีอิทธิพล และไม่เป็นผู้ทุจริตคอรัปชั่น ก็ปรากฏว่ามีผู้กล้าอยากเข้าเปลี่ยนแปลงเมืองหาดใหญ่ คือคุณ ประยูร วงศ์ปรีชากร ซึ่งเป็นผู้ยึดมั่นประชาธิปไตย มีประสบการณ์ และเป็นผู้รับฟังความเห็นที่แตกต่าง สามารถแลกเปลี่ยนกันด้วยเหตุผล อาสาเข้ามาลงสมัคร นี่เป็นการผนึกกำลังกันของคนมีประสบการณ์กับคนร่นใหม่มีพลัง เป็นการเมืองของคนธรรมดาที่จะเปลี่ยนบ้านเกิดหาดใหญ่ของเราให้ดีขึ้น