ชาวบ้านพบซากลูกช้างป่าติดบ่วงแร้วลวดสลิงของนายพราน ตายอนาจกลางป่า ในอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
เมื่อ 25 ธ.ค. 63 ได้รับข่าวแจ้งว่า มีชาวบ้านไปพบลูกช้างป่าตายประมาณ 5-7 วัน ที่บริเวณ กลุ่มบ้านบ่อเก้า บ.คลองปุด ม.7 ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา หลังรับทราบเจ้าหน้าที่จึงจัดชุดพิสูจน์ทราบพร้อมคณะเจ้าหน้าที่ออกเดินทางจากสถานียุทธศาสตร์ตำบลบาละ สภ.กาบัง จ.ยะลา ถึงจุดส่งลงเดินเท้าสุดถนนดินที่กลุ่มบ้านบ่อเก้า หมู่บ้านย่อย บ.คลองปุดฯ เดินเท้าผ่านสวนยางพาราเข้าพื้นที่ป่าไม้บนภูเขาสูง
ตามทางเดินเท้าในป่าพบร่องรอยเท้าช้างและร่องรอยหมูป่าหากินจำนวนมาก และพบบ่วงแร้วลวดสลิงดักสัตว์จำนวนมาก คณะเจ้าหน้าที่เดินเท้าถึงที่ประมาณพิกัดที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 257 เมตร ต้นน้ำคลองปุดตรวจพบซากลูกช้างป่าตายแล้ว จำนวน 1 ตัว อายุประมาณ 1 ปี ความยาวตัว 148 ซม. ตายมาแล้วประมาณ 7 วัน
โดยเบื้องต้นสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่ตรวจพบบ่วงแร้วลวดสลิงรัดติดอยู่ที่ข้อเท้าด้านขวาหน้าทำให้ข้อเท้าเน่าเปื่อยเกิดการอักเสบ ส่งผลให้ลูกช้างตายบริเวณรอบพื้นที่ลูกช้างตาย ตรวจพบร่อยรอยเท้าช้างป่าเดินวนเวียนอยู่จำนวนมาก ที่เกิดเหตุในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าลาบู-ถ้ำทะลุ เทือกเขาสันกาลาคีรี ห่างจากแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ประมาณ 500 เมตร ขณะตรวจสอบ ไม่พบผู้ใดในพื้นที่เกิดเหตุที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาโต๊ะเทพป่าควนหินลับ เขตพื้นที่เตรียมการ อุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี ท้องที่ บ้านคลองเปล้า ม.1 ต.บาโหย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ต้นน้ำแม่น้ำเทพา
ขั้นต้นจากการตรวจพิสูจน์ทราบ ได้ลงบันทึกประจำวัน กล่าวหาว่า เป็นการกระทำความผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มอบหมายให้ จนท.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี จัดทำบันทึกรายละเอียดการตายของลูกช้าง รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามระเบียบและตามกฎหมายต่อไป