นายกตู่หวั่นใจการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ในโลก ย้ำทุกคนควรวางเรื่องการเมืองเอาไว้ก่อน
ในขณะที่หลายฝ่ายจับตาการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมืองที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 กันยายนนี้ เมื่อวานนี้ (17/9/63) เวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ แสดงความกังวลสองประเด็นหลัก คือการแพร่ระบาดของโควิด-19 กับการชุมนุมที่จะมีขึ้น อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อประเทศ พร้อมระบุว่าได้ยินและรับทราบความขับข้องใจของคนส่วนหนึ่งในสังคม แต่การรวมตัวของคนจำนวนมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงการระบาดของโรคในประเทศมากขึ้น
พร้อมย้ำเตือนจึงอยากจะขอพี่น้องประชาชนทุกคน ให้ลุกขึ้นมาตั้งการ์ดของตัวเองให้สูงขึ้นอีกครั้ง เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น รักษาวินัยที่ดีไว้ อย่างที่เราเคยทำกันมา เพราะสงครามกับโควิด จะยังอยู่ไปอีกนาน เพราะ ในส่วนประเทศไทย แม้ว่าการไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศ จะสร้างความเจ็บปวดให้เราอย่างมาก แต่อย่างน้อย ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ ยังเปิดได้อยู่ โรงเรียน ไซต์งานก่อสร้าง โรงงานและสำนักงาน ยังเปิดได้ และการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยด้วยกันเอง ก็ยังคงทำได้อยู่ ดังนั้น เราจึงไม่ควรทำอะไรก็ตามที่จะเพิ่มความเสี่ยงให้ประเทศไทยต้องกลับไปล็อกดาวน์อีกครั้ง เหมือนเมื่อเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมา แบบนั้นจะยิ่งเพิ่มความเดือดร้อนและเจ็บปวดให้กับทุกคน
ในช่วงท้ายของแถลงการณ์ ระบุว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่ปฎิบัติต่อผู้ชุมนุมด้วยความนิ่มนวล พี่น้องครับ เรากำลังเดินเข้าสู่ช่วงเวลาที่จะยิ่งยากลำบากมากขึ้น เราจึงควรวางเรื่องการเมืองเอาไว้ก่อน แล้วจับมือร่วมแรงร่วมใจกัน ผ่านพ้นความยากลำบากที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์โลกไปให้ได้ ผมขอให้ทุกคนยกการ์ดของตัวเองให้สูงอีกครั้ง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม และโชว์สปิริตของความเป็นไทยต่อไป ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันเอาชนะโควิดไปให้ได้
HATYAITODAYNEWS
อ้างอิง : ไทยคู่ฟ้า
Fri Sep 18 , 2020
มท.2 ระดมสภาพัฒน์ฯ-แบงค์ชาติ พัฒนาภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและภาคใต้ชายแดน ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (17 ก.ย. 63) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะอนุกรรมการ อ.ก.บ.ภ.ภาคใต้และภาคใต้ชายแดน และหัวหน้าคณะทำงานกลั่นกรองแผนงานโครงการ อ.ก.บ.ภ. ภาคใต้และภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมระดมความคิดเห็น เพื่อติดตามผลการดำเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและภาคใต้ชายแดน และแนวทางดำเนินการในช่วงปีงบประมาณ 2564-2565 พร้อมทั้งมอบแนวทางการดำเนินงานพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในระยะต่อไป ณ โรงแรมเซาท์เทิร์นแอร์พอร์ต อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รอง ผวจ.สงขลา ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ ผู้แทนสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้ ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งขาติ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และผู้แทนกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมประชุม โดยที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการจัดการประชุม เพื่อระดมความคิดเห็น และติดตามผลการดำเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและภาคใต้ชายแดน รวมถึงแนวทางการดำเนินการในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ.2564-2565 โดยมีกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ประกอบด้วยจังหวัดสุราษฏร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน จังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี และภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม และรายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ปีงบประมาณ 2563 รวมถึงการดำเนินงานตามแผนดังกล่าว ในปีงบประมาณ 2564-2565 รวมทั้งให้ข้อคิดเห็น และข้อสังเกตต่อการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัด นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวว่า ภาพเศรษฐกิจของภาคใต้โดยรวม จะเห็นว่าเครื่องจักรทุกตัวอ่อนกำลังลงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างเลี่ยงไม่ได้ นอกจากการใช้จ่ายจากภาครัฐ รวมถึงภาคการเกษตร โดยเฉพาะในเรื่องของราคายาง ที่ยังพอกระเตื้องอยู่บ้าง แต่ยังต้องจับตาดูต่อไป แต่อย่างน้อยเมื่อราคายางสูงขึ้น ทำให้คนกลุ่มหนึ่ง ยังพอมีสภาพคล่องอยู่บ้าง นอกจากในเรื่องของภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงมีผลกระทบมากที่สุด ดังนั้น จึงพอสรุปในภาพรวมถึงสถานการณ์ปีหน้า รวมถึงจะมีผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ และการเจริญเติบโตอย่างอื่นก็ยังน่าเป็นห่วง นอกจากภาครัฐ ดังนั้น เมื่อรัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาลงในพื้นที่ เพื่อจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะงบลงทุนซึ่งปีหนึ่งๆประมาณ 5-6 แสนล้านบาท ถ้ามีการเร่งรัดให้เป็นไปตามแผนงานโครงการได้ […]