ภาคครม.อนุมัติแล้วกว่าพันล้านบาท พัฒนาวัคซีนโควิด-19 พร้อมแนวทางความเป็นไปได้ในปลายปีนี้
คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 1,000 ล้านบาท ในลักษณะเงินอุดหนุนให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานเครือข่าย การพัฒนางานด้านวัคซีนของประเทศในการเพิ่มศักยภาพการผลิตวัคซีนให้พร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี การผลิตวัคซีนโควิด-19 และการสร้างขีดความสามารถของประเทศโดยการพัฒนาวัคซีนตั้งแต่ต้นน้ำ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ทางด้านหมอตี๋ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขขอจัดสรรงบประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อให้ไทยได้ลงทุนกับนานาชาติในการผลิตวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดและบริษัทในประเทศอังกฤษ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณเงินกู้สนับสนุน 1,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนที่เราสามารถดำเนินการเองได้โดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กำลังดำเนินการผลิต อีกช่องทางหนึ่งคือ ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด โดยการทำข้อตกลงเพื่อให้ดำเนินการจัดสรรโควต้า เมื่อได้วัคซีนต้นแบบแล้ว อาจจะมีเงื่อนไขว่าให้จำหน่ายให้ไทยในราคาต้นทุน และอีกส่วนหนึ่งคือไทยผลิตเองโดยใช้งบประมาณไม่มาก โดยมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ส่งเสริม ซึ่งทั้ง 3 ส่วนสามารถดำเนินการได้ หากส่วนไหนพร้อม อย่างไรก็ตามกรณีที่ไทยจะผลิตเองนั้น จะทำให้ไทยมีวัคซีนได้เร็วสุดปลายปีนี้
ในช่วงก่อนหน้านี้ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา ได้เสริมข้อมูลว่าเรามีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเห็นวัคซีนโควิด-19ในช่วงปลายปีที่จะถึงนี้ เพราะการทดลองในวัคซีนจากประเทศชั้นนำระดับโลกได้มีการทดลองวัคซีนไปถึงขั้นที่ทดลองกับคนแล้ว ปัจจัยดังกล่าวทำให้เห็นได้ว่าประเทศไทยมีแนวโน้มไปในทางที่ดีในการผลิตวัคซีนในช่วงปลายปีนี้
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติม : ศูนย์ข้อมูล COVID-19