รณรงค์การปรับภูมิทัศน์โบราณสถานแหล่งท่องเที่ยวคู่บ้านคู่เมืองจ.สงขลา
สืบเนื่องจาก เฟซบุ๊กอาจารย์สืบสกุล ศรีสุข ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับ “ช่วงวันเวลานี้มีผู้คนมาเยือนสงขลากันมากเหลือเกินครับ..โดยเฉพาะ 14-16 ส.ค. นี้มีการมารวมกันของผู้คนทั่ง 77 จังหวัดของประเทศไทย มาค่วมกิจกรรม การศึกษานอกโรงเรียนการศึกษาตามอัธยาศัย และคิดว่าจะมีผู้ที่มาพื้นที่เมืองเก่ากันวันละหลายรอบเลยครับ ขยะเหล่านี้ละครับที่จะเป็นอุปสรรค์ ในหัวใจและอารมณ์ ที่จะหลงเสน่ห์และรักสงขลากันนะครับ ต้องให้โพสต์นี้เป็นตัวแทนร้องเสียงดังๆว่าช่วยด้วยครับ”
จากประเด็นที่ทางอาจารย์โพสต์การจัดสถานท่องเที่ยวอย่างกำแพงเมืองสงขลาที่หัวเขาแดง อ.สิงหนคร ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีย้อนอดีตเมืองสงขลาที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันทางจังหวัดก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับชุมชน และสถานการที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพราะจังหวัดสงขลา มีความหลากหลายของพหุวัฒนธรรมในพื้นที่เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่ และนอกพื้นที่เกิดความสนใจ และอยากเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา เพิ่มมากขึ้นมาก
แต่ในทางกลับกันภาพในการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวทั้ง การปรับภูมิทัศน์ ที่สำหรับทิ้งขยะ ไม่มีการจัดระบบขอบเขตในการท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของสถานที่ จึงส่งผลให้ภาพลักษณ์ในการท่องเที่ยวยังไม่เป็นอย่างที่ประชาชนคาดหวังไว้ จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในความรับผิดชอบ เข้ามาจัดการแก้ไขปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามและ เอื้อเฟื้อให้เหมาะสมต่อการท่องเที่ยว
HATYAITODAYNEWS
อ้างอิง : อาจารย์สืบสกุล ศรีสุข
Thu Aug 13 , 2020
ออกกฎเข้มคุมพระสงฆ์ กรณีการบิณทบาตไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้ออกหนังสือเรื่องขออนุมัตินำเรื่อง กรณีการบิณทบาตไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เสนอมหาเถรสมาคม (มส.) โดยหนังสือระบุว่า ตามที่มีข้อร้องเรียนผ่านทางระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่ชาติ (พศ.) กรณีการบิณฑบาตของพระสงฆ์ที่ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เช่น การบิณฑบาตก่อนอรุณ การกลับวัดช้าเกินเวลาที่กำหนด รับบิณฑบาตมากเกินความจำเป็น หรือถ่ายเทอาหารให้บุคคลภายนอก นั่งหรือยืนปักหลักบิณทบาตบริเวณหน้าร้านค้าตลอดจนนำอาหารที่ได้รับมให้ร้านจำหน่ายต่อ รวมทั้งหวังแต่ลาภสักการะ เมื่อบิณทบาตแล้ว อาหาร ดอกไม้ ธูปเทียนที่ได้ไม่นำกลับวัด ทิ้งไว้ข้างทาง เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแก่สมณวิสัย ทำให้ผู้ที่ใส่บาตรและผู้ที่พบเห็นเสื่อมความศรัทธา เป็นหตุให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ขอเรียนว่า เพื่อเน้นการป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวและลดปัญหาข้อร้องเรียน จึงเห็นควรนำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เพื่อโปรดทราบและพิจารณากำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดังนี้ 1. การออกบิณฑบาตของพระภิกษุสามเณรจะต้องออกบิณฑบาตเวลาได้รับอรุณ และไม่ควรเกินเวลา 08.00 น. 2. การบิณฑบาตโดยยืนหรือนั่งประจำที่ตามร้านขายอาหาร หรือบิณทบาตโดยเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆ นอกพื้นที่บิณทบาตแห่งวัดตนไม่สมควรกระทำ 3. การบิณทบาตด้วยการนั่งรับบาตรหรือนั่งในรถรับบาตรไม่สมควรกระทำ 4. สถานที่ที่เป็นแหล่งอโคจร […]