เปิดด่านฟื้นการค้าชายแดนกระตุ้นส่งออกครึ่งปีหลัง สิ้นสุดโควิด-19
รัฐบาลได้ประกาศเปิดการค้าชายแดนอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งฟื้นฟูการค้าชายแดนให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าช่วงครึ่งปีหลัง สถานการณ์การค้าชายแดนจะยิ่งปรับตัวดีขึ้น
ซึ่งปัจจุบัน จังหวัดสงขลามีด่านไทย-มาเลเซีย จำนวน 2 จุด คือ จุดผ่านแดนถาวรด่านบ้านประกอบ จ.สงขลา/จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์ จ.สงขลา โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการเปิดด่านถาวร เพราะการปิดด่านฯ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการทั้งส่งออกและนำเข้า เพราะไทยต่างก็ต้องพึ่งพาการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านกันมายาวนาน เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านมีความต้องการสินค้าไทยเป็นอย่างมากเพราะ ความนิยมในคุณภาพของสินค้าไทยซึ่งมีมาตรฐานสินค้าและความคุ้มค่าสูง นอกจากเราจะขายสินค้าให้เพื่อนบ้านได้มากแล้ว เรายังได้รับสินค้าที่มีความหลากหลายจากเพื่อนบ้าน ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้นและยังได้ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศชี้ให้เห็นว่า ประชาชนคนไทยได้รับประโยชน์จากการได้ดุลการค้าเพื่อนบ้าน โดยในช่วงปี 2562 การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ในด้านมูลค่าการค้าชายแดนในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มาเลเซีย ยังเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์และแผงวงจรไฟฟ้า มาเลเซีย มีมูลค่าการค้ารวม 87,854 ล้านบาท ลดลง 32.43% หลังจากเปิดด่านแล้ว มีการคาดการณ์ว่า แนวโน้มการค้าชายแดนและผ่านแดนในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2563 เชื่อว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากการคลายล็อกมาตรการและเปิดจุดผ่านแดนได้ครบทุกจุด ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 และการไม่กลับมาแพร่ระบาดรอบ 2 อันจะทำให้การค้าชายแดนกลับมาคึกคักสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
อ้างอิง : สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี(สบนร.)PMDU / ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (ศปก.นรม.) PMOC