ครม. สรุปแนวทางบริหารจัดการปาล์มน้ำมันให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ก.ค.2563 มีมติรับทราบสรุปมติการประชุม ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เสนอ โดยในส่วนการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตไฟฟ้านั้นให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งรัดการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือ จำนวน 37,550 ตัน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และ ให้พิจารณาจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ส่วนที่สำรองอีก 100,000 ตัน เพื่อดูดซับสต็อกส่วนเกิน และให้สำนักงบประมาณพิจารณางบสำหรับการชดเชยส่วนต่างของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุม ครม.ได้รับทราบมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันให้สอดคล้องกับสถานการณ์การใช้น้ำมันปาล์มในปัจจุบัน ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยที่ประชุม กนป.คาดการณ์ปี 2563 จะมีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลลดลงร้อยละ 8.2 โดยช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 คาดว่าจะปริมาณการใช้จะลดลงจาก 67 ล้านลิตรต่อวัน เหลือ 61-62 ล้านลิตรต่อวัน
ปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และนครศรีธรรมราช ให้กระทรวงพลังงาน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เร่งรัดการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือ จำนวน 37,550 ตันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้ กฝผ.พิจารณาจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่สำรองเพิ่มอีก 100,000 ตัน เพื่อนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ขณะเดียวกันให้กระทรวงพลังงาน เร่งดำเนินการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 10 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณจำนวน 372 ล้านบาท ให้กรมการค้าภายใน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์มเพื่อบริหารจัดการ และควบคุมสต๊อกน้ำมันปาล์ม
ในส่วนของโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2562-2563 วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรจำนวน 3.5 แสนครัวเรือน ปัจจุบันดำเนินการจ่ายเงินชดเชยไปแล้ว 7 งวด โดยในงวดที่ 3 , 4 และงวดที่ 5 ไม่มีการจ่ายเงินชดเชย เนื่องจากราคาตลาดอ้างอิงสูงกว่าราคาเป้าหมาย สำหรับงวดที่ 7-9 ได้มีการปรับเกณฑ์การจ่ายเงินชดเชยให้เร็วขึ้นเป็นทุก 30 วัน จากเดิม 45 วัน
อ้างอิง : กรมข่าวประชาสัมพันธ์