จ.สงขลาตรวจเข้มชายแดน สกัดลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ป้องกัน Covid-19 ตามแนวทาง ศบค.
วันนี้ 14/7/2563 กำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 437 จ.สงขลา จัดกำลังพลชุดเฝ้าตรวจชายแดนซึ่งเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 5 ชุด ออกลาดตระเวนตลอดแนวตะเข็บชายแดนไทยมาเลเซีย ทั้ง 3 อำเภอตั้งแต่ อ.สะเดา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย ตรวจเข้มซีลชายแดนทุกภาค สกัดลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ป้องกัน Covid-19 ตามแนวทาง ศบคหลังประเทศไทยเข้าสู่มาตรการผ่อนคลาย Covid-19 ระยะที่ 5 ทำให้ปัจจุบันมีการเดินทางผ่านเข้า – ออกทางบก ทางน้ำ ในพื้นที่ชายแดน ทั้งที่เดินทางผ่านการคัดกรองของภาครัฐกับความพยายามลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาปรากฏมีการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ไม่ผ่านการคัดกรองได้ในหลายพื้นที่นั้น เพื่อป้องกันแรงงานไทยในมาเลเซียราวถึงชาวต่างชาติลักลอบเข้ามาเมืองตามช่องทางธรรมชาติ โดยไม่ได้ลงทะเบียนเดินทางกลับประเทศและไม่ผ่านกระบวนการคัดครองโควิด และกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หลังจากที่สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศน่าเป็นห่วงและสุ่มเสี่ยงที่จะแพร่ระบาดระลอก2
ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน มีการปรับปรุงและเพิ่มเติมเครื่องกีดขวาง การวางลวดหนาม การติดตั้งเครื่องเฝ้าตรวจในพื้นที่ล่อแหลมตามแนวชายแดน การติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างและโซล่าเซลล์ตามเส้นทางที่ติดต่อกับช่องทางธรรมชาติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถมองเห็นได้ตลอดเส้นทางเป็นการเพิ่มศักยภาพในการเฝ้าตรวจ และการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทาง ตามแนวชายแดนพร้อมทั้งมีการประชาสัมพันธ์กับผู้นำชุมชนขอความร่วมมือแจ้งเบาะแสและกระจายข้อมูลข่าวสาร ควบคู่ไปกับการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น
และหากพบว่ามีการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนไทยมาเลเซียเจ้าหน้าที่จะส่งไปตรวจและกักตัว14 วันและดำเนินคดีลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ละเว้น ซึ่งเป็นการยกระดับคุมเข้มป้องกันโควิด 19 ในกลุ่มของผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ศบค.กำหนด ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรการเฝ้าตรวจไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหรือ ไม่ผ่านการคัดกรองจากภาครัฐ จะส่งผลดีต่อการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ไม่ให้เข้าสู่ประเทศเพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน
อ้างอิงข้อมูล : กองทัพภาคที่ 4