แอปเปิ้ลยอมแล้ว แจงเหตุทำไอโฟนรุ่นเก่าทำงานช้าลง สำนักข่าว CNN ได้รายงานถึงความคืบหน้าในกรณี Apple Inc หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามแอปเปิ้ลบริษัทผู้ผลิต สมาร์ทโฟนชื่อดังอย่างไอโฟน เสนอจ่ายเงิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อขอยอมความ หลังถูกดำเนินคดีจากข้อกล่าวหาที่ว่าลักลอบทำให้ไอโฟนรุ่นเก่าทำงานช้าลง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลลัพธ์จากการต่อสู้กันในชั้นศาลตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ในศาลชั้นต้น นครซาน โจเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังแอปเปิ้ลยอมรับว่า เจตนาใช้อัพเดทระบบปฏิบัติการเพื่อทำให้ไอโฟนรุ่นเก่าทำงานได้ช้าลง สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ไอโฟนทั่วโลก เมื่อเดือนธ.ค. 2560 จากเหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้แอปเปิ้ลเผชิญกับข้อครหาจากผู้บริโภคบางส่วน ว่าเจตนากดดันให้ผู้ใช้ไอโฟนรุ่นเก่าหันไปซื้อไอโฟนรุ่นใหม่ แต่แอปเปิ้ล ยืนยันว่า เป็นการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาแบตเตอรีที่เริ่มเสื่อมสภาพตามกาลเวลา และอาจทำให้เครื่องปิดเองเพื่อป้องกันความเสียหายของฮาร์ดแวร์
ต่อมาแอปเปิ้ลออกแถลงการณ์ขอโทษต่อผู้ใช้ไอโฟน และประกาศจะเปลี่ยนแบตให้กับผู้ใช้ไอโฟนในราคา 79 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,500 บาท สร้างความไม่พอใจให้ผู้บริโภคบางส่วนอีกครั้ง ทำให้ต้องยอมลดราคาแบตลงมาเหลือ 29 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 900 บาท เมื่อปี 2561 แน่นอนว่า ผู้ใช้ไอโฟนในสหรัฐ สามารถยื่นคำร้องขอค่าเสียหายได้แล้ว หากครอบครองรุ่น iPhone 6, 6 Plus, 6S, 6S Plus, 7, 7 Plus และ SE พร้อมหลักฐานว่าซื้อมาก่อน 21 ธ.ค. 2560
แน่นอนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างผลกระทบไม่น้อยต่อแอปเปิ้ล รวมถึงความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ เพราะแอปเปิ้ลเองเปรียบเสหมือนกับสัญลักษณ์ของสมาร์ทโฟนในปีนั้นๆว่ามีแนวโน้มไปในทิศทางไหน
ภาพ: CNN
อ้างอิง: edition.cnn.com, khaosod.co.th